กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ (28 ก.พ.) ว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายอาวุธให้แก่ประเทศอิสราเอลมูลค่ารวมประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การขายอาวุธดังกล่าวได้รับการแจ้งต่อสภาคองเกรสภายใต้กระบวนการฉุกเฉิน จึงไม่ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบตามปกติ
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีการอนุมัติข้อตกลงการขายอาวุธมูลค่า 2.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับอิสราเอล ซึ่งรวมถึงหัวรบระเบิดทั่วไปจำนวน 35,529 ลูกสำหรับระเบิด 2,000 ปอนด์ และหัวรบขนาด 2,000 ปอนด์ชนิดเจาะบังเกอร์จำนวน 4,000 ลูก
เพนตากอนระบุในแถลงการณ์ว่า การส่งมอบอาวุธดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มขึ้นในปี 2569 แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาวุธบางส่วนอาจจะมาจากคลังของสหรัฐฯ ซึ่งจะสามารถส่งมอบอาวุธบางส่วนได้ทันที
ส่วนข้อตกลงฉบับที่สองในการจัดหาระเบิดขนาด 1,000 ปอนด์และชุดนำทาง ซึ่งมีมูลค่า 675.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นคาดว่าจะส่งมอบในปี 2571 และข้อตกลงที่สามในการซื้อรถเกรดดิน Caterpillar D9 Bulldozers มูลค่า 295 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นคาดว่าจะส่งมอบในปี 2570
การอนุมัติขายอาวุธให้กับอิสราเอลในกรณีฉุกเฉินครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองในเดือนก.พ. โดยที่ไม่ผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรส
ทั้งนี้ การขายอาวุธของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่มีการหยุดยิงเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งได้ยุติการสู้รบที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 15 เดือนระหว่างอิสราเอลและฮามาส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มี.ค. 68)