รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าปราบปรามผู้อพยพตามที่ลั่นวาจาไว้ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) รายงานตัวเลขการจับกุมรายวัน ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ถูกจับกุมถึง 3,104 รายในช่วงเวลาเพียงสามวันที่ผ่านมา รวมเป็นมากกว่า 4,500 รายนับตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์รายงานในวันพุธ (29 ม.ค.) โดยอ้างข้อมูลของ ICE ว่า การบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เนรเทศผู้อพยพมากกว่า 271,000 คนในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557
ทรัมป์กล่าวย้ำอยู่บ่อยครั้งว่า รัฐบาลของเขาจะให้ความสำคัญกับการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายและมีประวัติอาชญากรรม ซึ่งนโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางราย ดังเห็นได้จากจำนวนผู้ถูกจับกุมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ลิซา เดวิส ผู้บัญชาการกรมตำรวจออสติน (APD) รัฐเท็กซัส กล่าวว่า “สุดท้ายแล้ว คนเหล่านี้คือคนที่ APD ต้องการตัวเช่นกัน พวกเขาถูกจับเนื่องจากกระทำผิดกฎหมายอย่างรุนแรง”
แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ตอบคำถามของนักข่าวที่ถามว่าผู้อพยพที่ ICE จับกุมนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองนั้นมีกี่คนที่มีประวัติอาชญากรรมจริง ๆ “ทั้งหมด เพราะพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศเราด้วยการเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ม.ค. 68)
Tags: ประธานาธิบดีสหรัฐ, ผู้อพยพ, ศุลกากร, ศุลกากรสหรัฐ, สหรัฐ, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, โดนัลด์ ทรัมป์