แพทย์หญิงโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ระบุว่า CDC ได้เผยแพร่กลยุทธ์ใหม่ที่เรียกว่า “Test-to-Stay” ซึ่งอนุญาตให้เด็กที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเดินทางไปโรงเรียนได้แม้ว่าพวกเขาเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม
ทั้งนี้ แพทย์หญิงวาเลนสกีได้กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า “หากเด็กที่เสี่ยงติดเชื้อเข้าเกณฑ์กำหนดและผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ พวกเขาก็สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้ ไม่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจุบันรัฐบางรัฐในสหรัฐได้เริ่มแนะนำให้โรงเรียนใช้กลยุทธ์ “Test-to-Stay” แล้วเพื่อผลักดันให้เด็กไปโรงเรียนกันมากขึ้น
แพทย์หญิงวาเลนสกีย้ำว่า โรงเรียนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับนักเรียนสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ “Test-to-Stay” และเสริมว่าโรงเรียนจำนวนมากดำเนินการตามมาตรฐานดังกล่าวแล้ว
แนวทางใหม่ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายในสหรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยกว่า 39 รัฐของสหรัฐ และ 75 ประเทศทั่วโลก รายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนซึ่งแพร่เชื้อได้ในระดับสูงและสามารถระบาดสู่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วในอัตราที่สูงขึ้น
แพทย์หญิงวาเลนสกีระบุว่า “เราคาดว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐเช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า”
ข้อมูลบางส่วนบ่งชี้ว่าผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนมีอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่ผ่าน ๆ มา แต่นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อระดับสูงของสหรัฐระบุว่า ความรุนแรงของไวรัสโอมิครอน “ยังไม่เป็นที่กระจ่างแจ้ง”
นายแพทย์เฟาซีระบุว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 สามารถเพิ่มการป้องกันไวรัสโอมิครอน แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนให้ประชาชนรับวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนครบ 6 เดือนหลังการฉีดเข็มก่อนหน้าหรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 64)
Tags: COVID-19, สหรัฐ, โควิด-19, โอมิครอน