สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเดินหน้าลงทุนมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.4 หมื่นล้านบาท) เพื่อเร่งการพัฒนาและผลิตยาต้านไวรัสโควิด-19
แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ของสหรัฐระบุว่า แผนการดังกล่าวมีชื่อว่าโครงการต้านไวรัสเพื่อการระบาดใหญ่ (Antiviral Program for Pandemics) โดยจะมุ่งพัฒนาและผลิตยาต้านไวรัสโควิด-19 อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงและรักษาชีวิตประชาชน
ขณะเดียวกันโครงการดังกล่าวจะสร้างแพลตฟอร์มที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนายาต้านไวรัสสำหรับไวรัสชนิดอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระบาดใหญ่ในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวจัดสรรเงินมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.4 พันล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการวิจัยและห้องปฏิบัติการ, เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.1 หมื่นล้านบาท) เพื่อการประเมินระยะก่อนมีอาการและขณะมีอาการของโรค และอีกเกือบ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.2 หมื่นล้านบาท) เพื่อการพัฒนาและการผลิตยาผ่านสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐ (NIAID) และองค์การวิจัยและพัฒนาขั้นสูงทางชีวการแพทย์ (BARDA) ของสหรัฐ
แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบัน NIAID กล่าวว่า ยาต้านไวรัสตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในรูปแบบยารับประทานที่ผู้ป่วยสามารถนำกลับไปกินเองได้ที่บ้านได้ในระยะแรกของโรคนั้น จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่และรักษาชีวิตประชาชน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 64)
Tags: ยาต้านไวรัสโควิด-19, สหรัฐ