สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศมาตรการควบคุมการค้ารอบใหม่กับบริษัทจีน 11 แห่ง และรัสเซีย 5 แห่งเมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) โดยมุ่งเป้าไปยัง 5 บริษัทต่างชาติที่ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ สร้างความไม่พอใจให้กับทางการจีนอย่างมาก
สหรัฐกล่าวหาบริษัทเอเชียแปซิฟิก ลิงก์ส (Asia Pacific Links) ซึ่งเป็นผู้ส่งออกของฮ่องกง บริษัทฟินแลนด์ 3 แห่งที่ดำเนินกิจการขนส่งสินค้า คลังสินค้า และโลจิสติกส์ บริษัทรัสเซีย 3 แห่ง และบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ของเยอรมนีอีกหนึ่งแห่งว่า มีส่วนเชื่อมโยงกับแผนการละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ โดยจัดหาส่วนประกอบโดรนให้แก่บริษัทสเปเชียล เทคโนโลยี เซ็นเตอร์ (Special Technology Center) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำไปแล้วก่อนหน้านี้
บริษัทเหล่านี้เป็นหนึ่งใน 28 บริษัทที่ถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีดำของสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมและความมั่นคงของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้กล่าวหาบริษัทจีนเพิ่มเติมอีก 8 แห่ง ว่าได้จัดหาหรือพยายามจัดหาอุปกรณ์โดรนของสหรัฐให้กับอิหร่าน นอกจากนี้ ยังกล่าวหาบริษัทจากโอมานอีก 2 แห่งว่า ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้ บัญชีดำเป็นเครื่องมือที่สหรัฐใช้เพื่อตั้งข้อจำกัดทางการค้าแก่องค์กรต่าง ๆ ที่สหรัฐมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ และสหรัฐได้ตั้งบัญชีดำกับจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อควบคุมเทคโนโลยีจีนและลงโทษการมีส่วนร่วมในกลไกสงครามของรัสเซีย
นายอลัน เอสเตเวซ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ฝ่ายอุตสาหกรรมและความมั่นคง ระบุในแถลงการณ์ว่า “การกระทำของเราเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงองค์กรต่าง ๆ ที่พยายามหลบเลี่ยงมาตรการควบคุมการส่งออกของเราว่า พฤติกรรมที่พยายามจะบ่อนทำลายผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐจะมีผลตามมาเสมอ” และเสริมว่า “เราไม่ลังเลที่จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีนัยสำคัญต่อใครก็ตามที่พยายามจะจัดหาและสนับสนุนสงครามที่ผิดกฎหมายและผิดศีลธรรมของปูตินในยูเครน”
อนึ่ง ยังไม่มีบริษัทใดของจีนที่ถูกกล่าวถึงออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวต่อซีเอ็นบีซี โดยบริษัทบางแห่งดูเหมือนว่าจะถูกยุบไปแล้วหรือไม่มีช่องทางติดต่อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ย. 66)
Tags: จีน, บัญชีดำ, รัสเซีย, สหรัฐ