นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนพ.ย. 64 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเกือบทุกภูมิภาค สะท้อนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคตทั้งในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ โดยเฉพาะภาคใต้ ภาคตะวันตก และภาคเหนือ จากนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 67.5 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นภาคบริการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สำหรับความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
ภาคตะวันตก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 70.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่าความต้องการสินค้าเกษตรจะเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลทำการประมง และมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการเนื่องจากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวในประเทศมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
ภาคเหนือ
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 69.9 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้นโดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากมียอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคบริการ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ทำให้ผู้ประกอบการภาคบริการทยอยกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกครั้ง
ภาคตะวันออก
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ 68.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ทุเรียน และมังคุด เป็นต้น
ภาคกลาง
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 66.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคบริการ เนื่องจาก โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมีความมั่นใจในการผลิตเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาคใต้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ ปรับเพิ่มจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 73.0 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคบริการ เนื่องจากคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรม จากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา
กทม. และปริมณฑล
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ อยู่ที่ระดับ 54.2 ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่สูงขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มียอดคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น และมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรกรรม เนื่องจากคาดว่าความต้องการสินค้าเกษตรของประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทอาหารทะเล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ย. 64)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่น, พิสิทธิ์ พัวพันธ์, สศค., เศรษฐกิจภูมิภาค, เศรษฐกิจไทย