สว. ติงนายกฯ ปัดความรับผิดชอบ หลังหลบเลี่ยงตอบกระทู้-จี้รบ.จริงใจคดีตากใบ

กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ นำโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ระบุว่า ในวันที่ 30 ต.ค.67 จะปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะสามารถมาตอบกระทู้ถามได้ โดยที่ผ่านมา มีกระทู้ถามไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึง 41 กระทู้ รับดำเนินการแล้ว 40 กระทู้ มีกระทู้ด้วยวาจา 4 กระทู้ เลื่อนตอบ 2 กระทู้ ตกไป 3 กระทู้ และกระทู้ที่เป็นหนังสืออีก 21 กระทู้ ตอบแล้ว 10 กระทู้ เลื่อนอีก 4 กระทู้ รอบรรจุเข้าวาระ 4 กระทู้

แต่ปรากฏว่านายกฯ ไม่เคยมาที่วุฒิสภา และมอบหมายให้รัฐมนตรีมาตอบ ซึ่งก็มาตอบบ้าง ไม่ตอบบ้าง จึงรู้สึกเสียดาย เพราะถือเป็นโอกาสให้นายกฯ อย่างน้อยก็มาสื่อสารกับวุฒิสภา และตอบข้อสงสัยที่ประชาชนอยากรู้

ด้าน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวว่า หลักการประชาธิปไตยของกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ที่ต้องทำงานร่วมกัน ทั้งการดุลและคานอำนาจ ดังนั้นการที่ฝ่ายบริหารหลบเลี่ยงการตอบกระทู้ เป็นการปัดความรับผิดชอบ ไม่ให้ความสำคัญกับฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นสิ่งสะท้อนของประชาชน

“กระทู้ต่าง ๆ ก็คือปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน เราอยากเห็นปฏิกิริยาของฝ่ายบริหารในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับประชาชน สิ่งเหล่านี้ฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบ ต้องมาตอบกระทู้ ไม่ใช่หลีกเลี่ยงหลบเลี่ยง จึงอยากฝากท่านฝ่ายบริหารทั้งหลาย ท่านคิดว่าการปฏิเสธไม่มาตอบกระทู้ เป็นสิ่งที่ท่านสามารถทำได้ แต่ประชาชนดูอยู่ เขาจะบอกว่าฝ่ายบริหารไม่เห็นหัวประชาชน เพราะฝ่ายนิติบัญญัติเป็นตัวแทนของประชาชน จึงอยากฝากรัฐมนตรีถึงนายกฯ ท่านไม่มีสิทธิจะบอกว่าไม่ว่าง ถึงท่านจะติดภารกิจ แต่วาระของประชาชนสำคัญที่สุด ท่านต้องมาตอบ” สว. นันทนา ระบุ

*จี้รัฐบาลจริงใจสอบคดีตากใบ ข้องใจ! รองปธ.สภาฯ อนุมัติใบลา “พิศาล” ทั้งที่คดีติดตัว

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีคดีตากใบหมดอายุความไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยเฉพาะการติดตามผู้ต้องหา 14 คนมาดำเนินคดี ว่า คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภควุฒิสภา ได้ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 9 เข้าให้ข้อมูล ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาทั้ง14 คน หลบหนีผ่านช่องทางปกติ และช่องทางธรรมชาติ

ดังนั้น แม้คดีนี้จะล่วงเลยไปแล้ว แต่อยากวิงวอนให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่นอกจากจะออกมาแสดงความเสียใจ และขอโทษแล้ว ยังต้องพิสูจน์ความเสียใจและขอโทษด้วยการลงมือ ส่วนประเด็นเรื่องอายุความนั้น มีข้อเสนอของนักสิทธิมนุษยชนขอร้องให้ประเทศอังกฤษดำเนินคดีกับผู้ที่หลบหนี เนื่องจากมีข้อกฎหมายที่รับรองไว้

“หากรัฐบาลจริงใจในคดีตากใบ ต้องช่วยกันเร่งรัดดำเนินคดี อำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีชายแดนใต้อื่น ๆ ด้วย เพราะความยุติธรรม เป็นหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ทำความจริงให้ปรากฏ แล้วความยุติธรรมจะตามมา เมื่อความยุติธรรมตามมาปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ก็จะลดลง” สว.เทวฤทธิ์ กล่าว

พร้อมระบุว่า ขอเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง จากการที่เจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง จนนำไปสู่ความสูญเสีย ทั้งกรณีตากใบและกรณีอื่น ๆ เช่น การวิสามัญที่เขาตะเว เมื่อปี 2562 รวมถึงคดีสลายการชุมนุมช่วงเม.ย.-พ.ค.53 ที่เกิดขึ้นกลางกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ ยังต้องให้ความปลอดภัยกับญาติผู้สูญเสียในคดีตากใบ โดยรัฐบาลต้องให้หลักประกันกับญาติที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เพราะฝ่ายตรงข้ามในคดี เป็นผู้ที่ถืออาวุธ และเป็นฝ่ายความมั่นคง ดังนั้น รัฐบาลต้องหามาตรการที่ดูแลทั้งร่างกาย และจิตใจของญาติผู้สูญเสียด้วย

นายเทวฤทธิ์ กล่าวอีกว่า แม้คดีจะหมดอายุความไปแล้ว แต่สามารถทดเวลาได้ กล่าวคือ ร้องขอให้ประเทศต้นทางที่รู้ว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอย่างเป็นทางการช่วยดำเนินคดี เพื่อเป็นการแสดงความพยายามถึงที่สุด เพราะพรรคเพื่อไทย คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ โดยอ้างเพียงแค่ว่า พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เพราะกรณีนี้ ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพรรค แต่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลด้วย

“นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ที่เซ็นอนุมัติให้ พล.อ.พิศาล ลาป่วยถึงวันที่ 30 ต.ค.67 จะบอกว่าใครยื่นใบลามา ก็เซ็นให้ทั้งหมด ไม่ได้ เพราะนายพิเชษฐ์ รู้ดีว่าคดีมีการฟ้องไปแล้ว คงต้องมีการตรวจสอบว่าการเซ็นอนุมัติของนายพิเชษฐ์ ใช้ดุลยพินิจถึงที่สุดหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการเดินทางออกนอกประเทศอย่างเป็นทางการ และช่องทางธรรมชาติ ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาชี้แจงด้วย โดยเฉพาะนายภูมิธรรม ที่ดูแลความมั่นคง นายกฯ ที่ออกแสดงความเสียใจและขอโทษ เป็นการพิสูจน์ความความจริงใจในการแสดงคำขอโทษ และเสียใจ” นายเทวฤทธิ์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 67)

Tags: , , , ,