สร้างเครือข่ายดูแลขนส่งทางน้ำรับนครพนมเป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม มอบหมายให้กรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการสร้างเครือข่ายอาสาวารีไปสู่ภาคประชาชน และองค์กรต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมปฏิบัติงานในการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้เรือและท่าเทียบเรือ การสัญจรทางน้ำ การแจ้งเหตุเกี่ยวกับมลภาวะทางน้ำ หรือการกระทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ และสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาจากเมืองรองเป็นเมืองหลัก เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต และที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ดำเนินการอบรมอาสาวารีมาแล้ว 43 รุ่น มีเครือข่ายทั่วประเทศถึง 6,866 คน

โดยจังหวัดนครพนมมีพื้นที่ด้านเหนือและตะวันออกของจังหวัดติดกับแม่น้ำโขงโดยตลอด และมีศักยภาพในการพัฒนาการคมนาคมขนส่งทางน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับมีสถานที่สัญจรและท่องเที่ยวทางน้ำหลายแห่ง อาทิ การล่องเรือชมแม่น้ำโขง ประเพณีแข่งเรือยาว เทศกาลไหลเรือไฟ ช่วงปี 2566-2567 จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 300% ยอดจองห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมไปถึงมีจากการเพิ่มเที่ยวบิน การเดินรถโดยสาร บขส. และการคมนาคมทางถนน

สำหรับการคมนาคมทางเรือนั้นมีเรือข้ามฟากจากไทย-ลาวที่มีจำนวนผู้โดยสารวันธรรมดาเฉลี่ย 800 คน/วัน ส่วนเสาร์และอาทิตย์เฉลี่ยประมาณ 1,200 คน/วัน นอกจากนี้มีเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 1 ลำ เรือท่องเที่ยวชายฝั่ง มีสถานที่สวยงาม สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งปี ทุกฤดู จึงเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่

แม้การท่องเที่ยวทางน้ำจะยังมีปริมาณไม่สูงนัก แต่ผู้ประกอบการได้เพิ่มจำนวนเรือท่องเที่ยวในด้านการเดินทาง หลังสายการบินไทยแอร์เอเชียได้เพิ่มเที่ยวบิน ดอนเมือง-นครพนม เป็น 4 เที่ยวบิน และเตรียมพิจารณาเปิดเส้นทางบินระหว่างภาค นครพนม-ภูเก็ต และนครพนม-เชียงใหม่ โดยอยู่ระหว่างศึกษาประเมินเก็บข้อมูลจำนวนผู้โดยสาร คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ และสายการบินยังเห็นโอกาสในการเดินทางเชื่อมต่อรองรับนักท่องเที่ยวจากเมืองดานัง ประเทศเวียดนามอีกด้วย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 67)

Tags: , ,