นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กรมสรรพากร เร่งสร้างความชัดเจนในเรื่องของหลักเกณฑ์การคิดคำนวนภาษีจากกำไร การขายหรือการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโทเคอร์เรนซี ให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปนั้น ขณะนี้ กรมสรรพากรกำลังเร่งดำเนินการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางหลักเกณฑ์การคิดภาษีจากกำไรการขายหรือการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ม.ค.65
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้เร่งหารือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนที่ดำเนินการในเรื่องของสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำมาจัดทำแนวทางการปฏิบัติในการเก็บภาษีเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับรูปแบบการลงทุนและบริบทในปัจจุบัน โดยยึดถือประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและทุกฝ่ายเป็นสำคัญ
“ในช่วงเกือบปีที่ผ่านมา การลงทุนและการแลกเปลี่ยนคริปโทเคอเรนซีของประเทศไทยมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ทั้งสำหรับผู้เสียภาษีและกรมสรรพากร ซึ่งกรมสรรพากรไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้มีการศึกษาและประมวลผลต่างๆ มาโดยตลอด แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ซึ่งกรมสรรพากรกำลังเร่งดำเนินการเพื่อหาความชัดเจนในเรื่องนี้” นายเอกนิติ กล่าว
พร้อมย้ำว่า กรมสรรพากรยังคงยึดแนวทางของการถือเอาผู้เสียภาษีเป็นศูนย์กลาง (Taxpayer-Centric) จึงพร้อมที่จะหาแนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง จากการถือครองหรือได้รับผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการลงทุน และสร้างแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจากนวัตกรรมทางการเงินดังกล่าวของประเทศต่อไป
อนึ่ง มีรายงานว่า กรมสรรพากร เตรียมเสนอแนวทางการจัดเก็บภาษีการลงทุนในคริปโทเคอเรนซี โดยเน้นเก็บจากการเทรด และการขุดเป็นหลักในอัตรา 15% แต่ผู้ที่มีกำไรไม่เกิน 2.1 แสนบาท/ปีจะไม่ต้องเสียภาษี เพียงแต่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภายในเดือน มี.ค.65 นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 65)
Tags: กรมสรรพากร, คริปโทเคอร์เรนซี, ภาษีคริปโท, สินทรัพย์ดิจิทัล, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ