นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้ลงนามในข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า กับบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประกอบ ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV) ทั้งภายในประเทศและส่งออก ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ BEV รายแรกที่เข้าร่วมมาตรการ
โดยผู้ประกอบอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ BEV ที่เข้าร่วมมาตรการ จะได้รับสิทธิประโยชน์จากภาษีสรรพสามิตอัตราภาษีตามมูลค่า 1% และเงินอุดหนุนจำนวน 18,000 บาทต่อคัน สำหรับการนำเข้ารถจักรยานยนต์แบบ BEV ในปี 2565-2566 และการผลิตรถจักรยานยนต์ BEV ในปี 2565-2568 โดยรถจักรยานยนต์ BEV ที่เข้าร่วมมาตรการต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. ต้องเป็นแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไออน
2. มีความจุแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 Kwh ขึ้นไป หรือมีระยะทางที่วิ่งได้ตั้งแต่ 75 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WMTC (World Motorcycle Test Cycle) ตั้แงต่ Class 1 ขึ้นไป
3. ต้องใช้ยางล้อที่เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มาตรฐานเลขที่ มอก. 2720-2560 (UN Reg.75) หรือที่สูงกว่า (UN Reg.75) และ 4. ต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เลขที่ มอก.2952-2561 (Un Reg.136) หรือที่สูงกว่า
“จากการที่รัฐบาลมีมาตรการดังกล่าว ขณะนี้มีผู้ประกอบอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ารถยนต์ 4 ราย และรถจักรยานยนต์ 1 ราย ที่เข้าร่วมลงนามกับกรมสรรพสามิตแล้ว โดยคาดว่าจะมีผู้สนใจทยอยเข้าร่วมลงนามเพิ่มขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ BEV ราคาลดลง และสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น” อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว
พร้อมระบุว่า รัฐบาลเตรียมงบสำหรับอุดหนุนราคายานยนต์ไฟฟ้าในปีงบประมาณ 2565 ไว้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสม สามารถรองรับการอุดหนุนราคาได้ประมาณ 20,000 คัน ส่วนในปีงบประมาณถัดไป รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และกระทรวงการคลัง เร่งหาแหล่งเงินที่ใหญ่กว่าเพื่อรองรับการดำเนินการต่อไป ส่วนการจ่ายเงินอุดหนุนให้ผู้ประกอบการนั้น ตามกระบวนการ กรมฯ จะมีการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด และจ่ายเงินให้ค่ายรถยนต์เป็นรายไตรมาส” นายลวรณ กล่าว
ด้านนายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีความประสงค์ผลิตรถจักรยานยนต์ BEV ในประเทศและขอรับสิทธิจำนวน 8 รุ่น ได้แก่ HANNAN, SOFIA, LUCIANO, SUSU, SUPERACE, DOUBLEACE,G-FIVE และ TAITAN โดยบริษัทวางแผนที่จะผลิตรถจักรยานยนต์ BEV ในปี 2565 จำนวน 32,000 คัน และปี 2566 จำนวน 38,400 คัน ปี 2567 จำนวน 46,400 คัน และปี 2568 จำนวน 56,000 คัน
“ราคารถจักรยานยนต์ BEV ของบริษัทที่จะได้รับอุดหนุนราคาจากรัฐบาล มีตั้งแต่ 50,000 – 1 แสนบาทบวก/ลบ ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ โดยบริษัทจะลดราคาให้ทันที 18,000 บาทต่อคันตามมาตรการ ซึ่งหลังจากที่เข้ามาตรการและระยะเวลาที่เหลืออยู่ของปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายรถจักรยานยต์ BEV อยู่ที่ราว 20,000 คัน” นายกฤตเมธ กล่าว
นายณัฐกร อุเทนสุต โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ยังมีค่ายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความสนใจเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลอีกหลายราย อาทิ ฮอนด้า ที่คาดว่าจะมีการลงนามในส่วนของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าก่อน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะเข้ามาร่วมมาตรการหลังจากนี้ รวมถึงเอดิสัน ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของคนไทย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 65)
Tags: กรมสรรพสามิต, กฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์, ยานยนต์ไฟฟ้า, รถอีวี, ลวรณ แสงสนิท, เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี