สภาฯ ล่ม องค์ประชุมลงมติผลศึกษาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบไม่ครบ

การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยช่วงแรกเปิดให้สมาชิกหารือถึงวาระต่างๆ ในพื้นที่ ก่อนถึงเวลา 10.30 น.ที่ประชุมจะเข้าสู่วาระพิจารณาการลงมติเห็นชอบเรื่อง รายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานฯ ที่พิจารณาแล้วเสร็จ และได้มีการอภิปรายไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะมีการการลงมติ ประธานการประชุมได้สั่งให้ทำการตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฎว่ามีจำนวนสมาชิกแสดงตนไม่ครบองค์ประชุม โดยเฉพาะ ส.ส.ฝั่งรัฐบาลที่มาร่วมประชุมบางตา ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้านซึ่งอยู่ในห้องประชุมไม่กดบัตรแสดงตน

นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวตำหนิสมาชิกว่า ขี้เกียจ ไม่มาประชุม ตอนเลือกตั้งอยากได้รับเลือกเป็น ส.ส. แต่พอเป็น ส.ส.กลับไม่มาประชุม ดังนั้นขอให้ประธานเคร่งครัดด้วยว่าหากลาประชุมเกิน 4 ครั้งให้พ้นสมาชิกภาพ และหากลงชื่อเกินเวลา 09.30 น.ให้ถือว่ามาทำงานสาย และหากสายเกิน 5-10 ครั้งให้ตัดเงินเดือน และคนที่ไม่มาทำงาน ขอประชาชนอย่าเลือกเข้ามาให้กินเงินเดือน ส.ส. และต้องประกาศรายชื่อให้ทราบด้วย ขณะที่ตัวแทนวิปรัฐบาลได้พยายามร้องขอให้เวลาเพื่อรอสมาชิกเข้าห้องประชุมด้วย

ด้านนายศุภชัย กล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ล่มอีก อายชาวบ้าน จากการเช็คชื่อประชุมมีทั้งหมด 260 คน หาก ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมช่วยกดบัตรตรวจสอบองค์ประชุมก็ครบองค์ประชุม ทั้งนี้ ส.ส.มาประชุมครบองค์ประชุม แต่บางครั้ง ส.ส.แสดงความจำนงไม่เช็คองค์ประชุมให้ ซึ่งถือเป็นสิทธิของ ส.ส.

ขณะที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พวกตนอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของส.ส.รัฐบาล แต่นายศุภชัย ตอบโต้ว่าในข้อบังคับการประชุมไม่ระบุว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ดังนั้นถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ ส.ส.ทุกคน อย่างไรก็ตาม นายศุภชัยได้สั่งพักการประชุม 30 นาที เพื่อรอจนกว่าจะครบองค์ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากครบ 30 นาทีแล้วได้กลับเข้าสู่การประชุมอีกครั้ง แต่บรรยากาศยังคงมีการถกเถียงวุ่นวาย โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย โวยวายว่า ส.ส.รัฐบาลมีการเสียบบัตรแทนกัน แต่นายศุภชัย ระบุว่าสามารถจับได้ภาพกว้างเท่านั้น แต่จะมีหลักฐานเรื่องการแสดงตนชัดเจน

จากนั้น น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เสนอนับองค์ประชุมแบบขานรายชื่อ เพื่อจะได้ทราบว่าใครมาหรือไม่มา และป้องกันปัญหาเสียบบัตรแทนกัน ขณะที่ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.ก้าวไกล เสนอให้เสียบบัตรแสดงตน

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เพื่อไทย ย้ำว่า องค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล และในสัปดาห์หน้าจะขอเวลาเจรจา 2 ฝ่ายระหว่างวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้การทำงานในสภาฯ ราบรื่น แต่ น.ส.รังสิมา ทักท้วงว่าองค์ประชุมเป็นเรื่องของ ส.ส.ทุกคน

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.เพื่อไทย ระบุถึงข้อทักท้วงของ น.ส.รังสิมา ว่า ย้อนนึกถึงวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ถูกฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุมวันละ 5 ครั้ง 5 เวลา ให้ย้อนกลับไปดูเทปก็ได้ จึงอยากให้ทบทวนวันที่เป็นฝ่ายค้าน และขออย่าเอาความดีใส่ตัว ความชั่วให้คนอื่น พร้อมขอให้ทำตารางการประชุมรายสัปดาห์ให้ชัดเจนว่าวันศุกร์ใดจะนัดประชุม

“หากประชุมมากแบบนี้ สภาเที่ยวหน้า กลับมาไม่ถึงครึ่ง เพราะไม่ได้ลงพื้นที่ เข้าใจคนที่มีธุระในพื้นที่ แต่เมื่อนัดต้องทำหน้าที่ การทำหน้าที่ในสภาฯ มีคำว่าฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ต้องการให้มีอุบัติเหตุทางสภาเกิดขึ้น แต่บางครั้งมันจำเป็น” 

นายครูมานิตย์ ระบุ

ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล เห็นด้วยที่วิป 2 ฝ่าย จะหารือกันเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหาของสภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ต่างประท้วงกันไปมา รวมแล้วเกือบครึ่งชั่วโมง แต่ในที่สุดนายศุภชัยได้ขอให้สมาชิกแสดงตนก่อนที่จะนับองค์ประชุม และเมื่อประกาศผลการแสดงตนที่มีผู้กดบัตรแสดงตน 230 คน และแสดงตนผ่านการขานชื่อเพิ่มเติมอีก 5 คน รวมเป็นองค์ประชุม 235 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุมจากจำนวน 476 คน ซึ่งองค์ประชุมกึ่งหนึ่ง คือ 238 คน ขาดไปเพียง 3 คนเท่านั้น จากนั้นประธานได้สั่งปิดการประชุมเมื่อเมื่อเวลา 11.51 น.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 64)

Tags: , , , , ,