สปส. ขานรับรัฐบาลดิจิทัล เปิดให้สมัครผู้ประกันตน ม.39 ได้เองทางออนไลน์

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล เป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ นำระบบอิเล็กทรอกนิกส์เข้ามาเป็นช่องทางให้บริการ เพิ่มความสะดวก ลดภาระแก่ประชาชน รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความสำคัญติดตามความก้าวหน้าแต่ละแผนงานอย่างจริงจัง ทำให้ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ มีบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามแผน และตามที่กฎหมายกำหนด

เช่นกรณีของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นหนึ่งหน่วยงานที่มีการปรับปรุงช่องทางที่ให้บริการแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สปส. ได้พัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นช่องการสมัครและขึ้นทะเบียนสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 39 ให้ผู้สมัครดำเนินการได้เองผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ e-Self Service จากเดิมที่ผู้ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องเดินทางไปดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ต่างๆ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะสมัครและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 ต้องเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน และออกจากงานประจำมาไม่เกิน 6 เดือน โดยเมื่อสมัครแล้ว จะยังคงสิทธิต่างๆ ของผู้ประกันตนต่อไป อาทิ สิทธิได้รับการรักษาเมื่อเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ สิทธิคลอดบุตร สิทธิทันตกรรม สิทธิกรณีเสียชีวิต บำเหน็จชราภาพ เป็นต้น

สำหรับขั้นตอนดำเนินการนั้น ให้ผู้ต้องการขึ้นทะเบียนเข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th แล้วสมัครใช้งานระบบสมาชิกผู้ประกันตนเพื่อรับ Username และ Password สำหรับ Login เข้าระบบ จากนั้นเลือกที่หัวข้อ “สมัครมาตรา 39” เพื่อเข้าสู่หน้าจอระบบสมัคร ขั้นตอนที่เหลือก็เพียงกรอกข้อมูลตามขั้นตอน แล้วยืนยันการสมัคร โดยสำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลภายใน 2-4 วัน โดยสามารถตรวจสอบผลผ่านช่องทางเดียวกับตอนสมัครแต่เลือกที่หัวข้อ “สถานะผู้ประกันตน”

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภายหลังได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ประกันตนมาตรา 39 สามารถส่งเงินสมทบงวดแรกได้ทันที ผ่านหลายช่องทางตามความสะดวก ได้แก่ ที่สำนักงานประกันสังคมใกล้บ้าน, ชำระด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงไทย, เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ทุกสาขา, เคาน์เตอร์เซอร์วิส, เคาน์เตอร์โลตัส, เคาน์เตอร์ CenPay Powered By บุญเติม, เคาน์เตอร์ Boonterm Bill Payment หรือหักจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ของธนาคาร 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสิน

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสอบถามที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 66)

Tags: , , ,