นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของอาการ และลดการเสียชีวิตได้ แต่มีบางรายที่ยังกังวลต่อผลข้างเคียงที่จะตามมา โดยทั่วไปมักพบผลข้างเคียงตั้งแต่ปวดแขนบริเวณที่ฉีด ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัวหรืออ่อนเพลีย และอาจมีอาการไปได้ 2-3 วัน หลังฉีดวัคซีน ซึ่งอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ การกินพืชสมุนไพรมีส่วนลดความรุนแรง หรือบรรเทาอาการที่มาจากผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนได้ สำหรับพืชสมุนไพรที่แนะนำ ได้แก่
- ขมิ้น เพราะมีสารต้านการอักเสบใช้เป็นยาแก้ปวดได้ อาจช่วยบรรเทาการปวดแขน ปวดศีรษะ
- ขิง สามารถช่วยลดการอักเสบ
- ผักใบเขียว มีวิตามิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ใยอาหารช่วยขับสารพิษของเสียออกจากร่างกาย อาหารที่มีปริมาณน้ำสูง เช่น ผัก ผลไม้ ทำให้ร่างกายสดชื่น ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ปกติ
- ธัญพืชต่างๆ สามารถช่วยรักษาสุขภาพลำไส้ ระบบขับถ่ายปกติ และยังให้พลังงานกับร่างกายหลังเกิดอาการอ่อนล้าหลังฉีดวัคซีนด้วย
สำหรับการเตรียมตัวไปฉีดวัคซีน สองวันก่อนและหลังการฉีดวัคซีน ให้งดออกกำลังกายหนักหรือยกของหนัก นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และวันที่ฉีดควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยหลังจากฉีดวัคซีนแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอดูอาการในบริเวณที่ฉีด 30 นาที ถ้ามีไข้ หรือปวดเมื่อยมาก สามารถกินยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละหนึ่งเม็ด แต่หากยังไม่ดีขึ้นสามารถกินซ้ำต่อได้ แต่ควรห่างกัน 4-6 ชั่วโมง นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 ควรห่างกับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 64)
Tags: กระทรวงสาธารณสุข, ฉีดวัคซีนโควิด, สธ., สมุนไพร, สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย