นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเดือนเมษายน เป็นช่วงเทศกาลสำคัญของไทย คือ เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทยของทุกปี จะมีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายในการจัดกิจกรรมรณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เข็มกระตุ้น ให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 (กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป / ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง / หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตสูง
ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ลดป่วยรุนแรง ลดการเสียชีวิตในกลุ่มผู้สูงอายุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรม สบส.จึงได้ประสานขอความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.และเครือข่ายสุขภาพทุกจังหวัด มาร่วมกันเชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ไปรับการฉีดเข็มที่ 1 และ 2 รวมทั้งเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3 และ 4 ก่อนที่ลูกหลานและคนในครอบครัวจะกลับมาเยี่ยม ภายใต้ชื่อกิจกรรม “อสม. รณรงค์ฉีดวัคซีนผู้สูงอายุก่อนสงกรานต์ ลูกหลานกลับบ้านสบายใจ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 6 เมษายน 2565
โดยเมื่อสิ้นสุดกิจกรรม พบว่ามียอดผู้สูงอายุที่เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 กว่า 500,000 คน และวัคซีนเข็มที่ 4 กว่า 21,000 คน ส่งผลให้ภาพรวมของทั่วประเทศมีผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมากกว่า 3 ล้านคน ซึ่งกรม สบส.ก็จะยังคงมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ฉีดวัคซีน ร่วมกับพี่น้อง อสม.ต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าผู้สูงอายุที่มีกว่า 11 ล้านคนทั่วประเทศจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามเป้าหมาย สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเลยหรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น พร้อมกับเน้นย้ำให้ อสม.ให้คำแนะนำมาตรการป้องกันเข้มข้นสูงสุด ในช่วงที่ลูกหลานเดินทางมาเยี่ยมช่วงเทศกาล
ด้านนพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า กรม สบส.ขอชื่นชม และขอบคุณ พี่น้อง อสม.ทุกท่าน โดยปัจจุบัน อสม.นอกจากจะรับบทบาทเป็นนักรบด่านหน้าในการต่อสู้กับโควิด 19 แล้ว ยังรับบทบาทของหมอคนที่ 1 ที่มีความใกล้ชิดกับชุมชน ดำเนินการเฝ้าระวัง ติดตามกลุ่มเสี่ยงสังเกตอาการ อำนวยความสะดวกในการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่จำเป็นร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งเป็นหมอคนที่ 2 และประสานกับหมอคนที่ 3 คือ หมอครอบครัว ในการให้บริการฉีดวัคซีน และติดตามอาการไม่พึงประสงค์ ซึ่ง กรม สบส.ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ วัสดุ อุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงจัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่พี่น้อง อสม.ทุกๆคน เพื่อตอบแทนต่อความทุ่มเท เสียสละในการดำเนินงานเคียงคู่ระบบการสาธารณสุขไทยมาตลอดระยะเวลา 45 ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 65)
Tags: กระทรวงสาธารณสุข, ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์, ผู้สูงอายุ, วัคซีนต้านโควิด-19, วัคซีนเข็มกระตุ้น, อสม.