หนังสือพิมพ์เดอะ เยรูซาเลม โพสต์ ของอิสราเอลรายงานโดยอ้างอิงคำยืนยันจากแหล่งข่าวในวันพฤหัสบดี (4 เม.ย.) ว่า อิสราเอลได้ตัดสินใจ “ยกระดับความปลอดภัย” ตามสถานเอกอัครราชทูตและสถานที่ที่เกี่ยวข้องทั่วโลก เนื่องจากคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะก่อเหตุโจมตีหลังเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสรายหนึ่งของอิหร่านถูกสังหารในประเทศซีเรียเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตบางรายยังถูกขอให้งดเว้นการเข้าร่วมงานสาธารณะเนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังอิสราเอลออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโจมตีสถานกงสุลในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อวันจันทร์ที่ 1 เม.ย. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย ซึ่งรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองพันอัล-กุดส์ (Al-Quds) สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน โดยอิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประกาศกร้าวว่าจะตอบโต้อิสราเอล
นายฮุซัยน์ อะมีร อับดุลลอฮิยอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุว่า “เรามองว่าการรุกรานครั้งนี้ได้ละเมิดบรรทัดฐานทางการทูตและสนธิสัญญาระหว่างประเทศทั้งหมด”
ข้อมูลจากสื่ออิสราเอลระบุว่า นักการทูตที่ประจำอยู่ต่างแดนต่างแสดงความวิตกกังวลว่าสถานทูตที่ตนเองประจำการอยู่จะตกเป็นเป้าหมายการแก้แค้นของอิหร่าน
หนังสือพิมพ์เดอะ เยรูซาเลม โพสต์ รายงานว่า ในวันที่ 8 ต.ค. 2566 หนึ่งวันหลังจากกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์เปิดปฏิบัติการสังหารหมู่บริเวณภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อปีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลทั่วโลกก็ได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านความปลอดภัย โดยสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลบางแห่งเผชิญภัยคุกคามจริง
ทั้งนี้ อิสราเอลได้สั่งห้ามทหารลาหยุด และยกระดับคำสั่งการป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธหรือโดรนจากอิหร่าน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 67)
Tags: ภัยคุกคาม, อิสราเอล, อิหร่าน