ศาลฎีกาสหรัฐฯ ไฟเขียว เดินหน้าพิจารณาโทษ “ทรัมป์” คดีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊

ศาลฎีกาสหรัฐฯ มีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) อนุญาตให้เดินหน้าพิจารณาโทษ โดนัลด์ ทรัมป์ ในคดีอาญาที่เขาถูกตัดสินว่ามีความผิด ฐานจ่ายเงินปิดปากให้กับดาราหนังโป๊ โดยศาลฎีกาลงมติ 5 ต่อ 4 เสียง ปฏิเสธคำร้องของทรัมป์ที่ขอให้ระงับกระบวนการนี้ โดยเสียงข้างมาก 5 เสียงนั้น มาจากผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม 2 คน และผู้พิพากษาสายเสรีนิยม 3 คน

ทรัมป์ยื่นคำร้องในนาทีสุดท้ายเพื่อขัดขวางการพิจารณาโทษ ซึ่งมีกำหนดในวันศุกร์นี้ (10 ม.ค.) ที่ศาลรัฐนิวยอร์กในแมนฮัตตัน โดยประธานศาลฎีกา จอห์น โรเบิร์ตส์ และผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม เอมี โคนีย์ บาร์เร็ตต์ ได้ร่วมกับผู้พิพากษาสายเสรีนิยม 3 คน ได้แก่ โซเนีย โซโตเมเยอร์, เอเลนา คาแกน และเคตันจิ บราวน์ แจ็คสัน ลงมติปฏิเสธคำร้องของทรัมป์

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลได้ให้เหตุผลสั้น ๆ 2 ประการสำหรับคำวินิจฉัยครั้งนี้

“ประการแรก การกล่าวหาว่ามีการละเมิดหลักฐานในการพิจารณาคดีในศาลของรัฐของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์นั้น สามารถแก้ไขได้ในกระบวนการอุทธรณ์ตามปกติ” คำสั่งศาลระบุ

“ประการที่สอง ภาระที่การพิจารณาโทษจะส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบของว่าที่ประธานาธิบดีนั้น ถือว่าค่อนข้างน้อย เพราะศาลชั้นต้นระบุว่าจะกำหนดโทษให้เป็น “การปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข” หลังจากการพิจารณาคดีสั้น ๆ ผ่านระบบออนไลน์”

ด้านผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ฆวน เมอร์ชาน เคยกล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาไม่มีแนวโน้มที่จะตัดสินจำคุกทรัมป์ และมีแนวโน้มที่จะให้ทรัมป์ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งจะทำให้มีการบันทึกคำตัดสินว่ามีความผิดลงในประวัติของทรัมป์ แต่จะไม่มีการคุมขัง ปรับ หรือคุมประพฤติ โดยผู้พิพากษาเมอร์ชานจะดำเนินการพิจารณาโทษทรัมป์ในวันศุกร์นี้ เวลา 9.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (21.30 น.ของวันศุกร์ ตามเวลาไทย)

อย่างไรก็ตาม มีผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม 4 คน ได้แก่ คลาเรนซ์ โธมัส, ซามูเอล อลิโต, นีล กอร์ซัค และเบรตต์ คาวานอห์ ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยนี้ และระบุว่าพวกเขาจะยอมรับคำร้องขอของทรัมป์

ทั้งนี้ ศาลฎีกามีผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมครองเสียงข้างมากอยู่ที่ 6 ต่อ 3 โดยทรัมป์ในระหว่างดำรงตำแหน่งสมัยแรกได้แต่งตั้งกอร์ซัค, คาวานอห์ และบาร์เร็ตต์ ให้ดำรงตำแหน่งตลอดชีพในศาล

หลังมีคำสั่งของศาลฎีกา ทรัมป์ได้กล่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโกในรัฐฟลอริดาว่า “ผมได้อ่านแล้ว และผมคิดว่าเป็นคำวินิจฉัยที่ยุติธรรม” และยังเขียนบนโซเชียลมีเดียของเขาว่า “เพื่อประโยชน์และความศักดิ์สิทธิ์ของตำแหน่งประธานาธิบดี ผมจะอุทธรณ์คดีนี้ และมั่นใจว่าความยุติธรรมจะได้รับชัยชนะ”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ยื่นขอความช่วยเหลือจากผู้พิพากษาศาลฎีกา ในขณะที่เขาดำเนินการอุทธรณ์ศาลของรัฐเพื่อขอคำตอบเกี่ยวกับประเด็นคำถามทางกฎหมายในเรื่องความคุ้มกันของประธานาธิบดี หลังจากที่ศาลฎีกามีคำตัดสินเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้วที่ให้ความคุ้มกันในวงกว้างแก่อดีตประธานาธิบดีจากการถูกดำเนินคดีอาญาสำหรับการกระทำที่เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดี

การตัดสินของศาลฎีกาในครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ศาลสูงสุดของนิวยอร์กปฏิเสธคำร้องขอของทรัมป์ที่จะให้ระงับการพิจารณาโทษของเขาเมื่อวันพฤหัสบดี

ด้านอัยการแมนฮัตตันได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี คัดค้านคำร้องขอของทรัมป์ โดยสำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตัน อัลวิน แบรกก์ เขียนในคำร้องว่า “จำเลยกำลังขอให้ศาลดำเนินการแทรกแซงการพิจารณาคดีอาญาที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการพิจารณาโทษตามกำหนด โดยเกิดขึ้นก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และก่อนที่จะมีการพิจารณาการอุทธรณ์โดยตรง ซึ่งการแทรกแซงดังกล่าวไม่มีเหตุผลรองรับ”

เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) ทรัมป์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ขอให้ระงับการดำเนินการในคดีนี้ชั่วคราวในขณะที่เขาขออุทธรณ์ โดยอ้างถึงคำตัดสินของศาลฎีกาเกี่ยวกับความคุ้มกันของประธานาธิบดีเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว

จอห์น ซาวเออร์ ทนายความของทรัมป์ระบุในคำร้องว่า “การอุทธรณ์นี้จะส่งผลให้มีการยกฟ้องการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งมีข้อบกพร่องมาตั้งแต่เริ่มต้น”

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิด 34 กระทง ฐานปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจเพื่อปกปิดการจ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์ให้กับสตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังโป๊ เพื่อแลกกับการปิดปากเงียบเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศที่เธอบอกว่าเคยมีกับทรัมป์เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธมาตลอด โดยอัยการกล่าวหาว่า การจ่ายเงินดังกล่าวมีขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งปี 2559 ซึ่งเขาเอาชนะฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ทรัมป์ถือเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกดำเนินคดีอาญา และเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ปฏิเสธการกระทำผิดทั้งหมด

ทีมทนายความของทรัมป์แย้งว่า อัยการนำหลักฐานการกระทำที่เป็นทางการของทรัมป์มาใช้ในการพิจารณาคดีอย่างไม่เหมาะสม และยังอ้างเหตุผลว่า ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดี ทรัมป์มีความคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในช่วงเวลาระหว่างที่ชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.จนถึงพิธีเข้ารับตำแหน่ง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 68)

Tags: ,