องค์การคลังสินค้า (อคส.) เตรียมออกประกาศทีโออาร์เปิดประมูลข้าวสารหอมมะลิ 15,000 ตันในล็อตสุดท้ายจากโครงการรับจำนำข้าวปี 56/57 กลางเดือนพ.ค.นี้ คาดได้ผู้ชนะประมูลราวต้นเดือน มิ.ย.นี้
นายกฤษณรักษ์ ใจดี นักบริหาร 9 รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า ขณะนี้ อคส.อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขการเปิดประมูล (ทีโออาร์) หลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้นำคณะลงพื้นที่โกดังเก็บข้าวที่ จ.สุรินทร์ 2 แห่ง เพื่อพิสูจน์คุณภาพของข้าวไปแล้ว
หลังจากออกประกาศทีโออาร์แล้ว อคส.จะเปิดชี้แจงทีโออาร์ให้กับผู้สนใจเข้าร่วมได้รับทราบ จากนั้นจะเปิดโกดังให้ผู้สนใจไปตรวจสอบคุณภาพข้าว เปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติของผู้ที่จะประมูล ตรวจสอบคุณสมบัติและประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ จากนั้นจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคา และเปิดซองราคา พิจารณาและต่อรองราคา และประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลราวๆ ต้นเดือน มิ.ย.นี้
ส่วนราคาขายน่าจะได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัม (กก.) ละ 18 บาท หรือได้มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท หลังจากนั้นจะนำเงินส่งคืนคลัง และปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด
สำหรับข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ที่จะนำมาประมูลครั้งนี้เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำปี 56/57 ซึ่งที่ผ่านมา อคส.ได้เปิดประมูลมาอย่างต่อเนื่อง แต่การประมูลล่าสุดเมื่อปี 63 ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบข้าว หรือไม่จ่ายเงินชำระค่าข้าว เพราะประมูลซื้อจาก อคส.ในราคาแพง แต่หลังจากนั้นราคาตลาดลดลงมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การส่งออก การขนส่งสินค้าหยุดชะงัก และราคาข้าวลดลง ผู้ซื้อจึงยอมทิ้งข้าว หรือยอมทำผิดสัญญา เป็นเหตุให้ อคส.ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และฟ้องร้องดำเนินคดีในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากการประมูลครั้งสุดท้ายเมื่อปี 63 อคส.ได้พยายายามเปิดประมูลอีก 2-3 ครั้งแต่ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้ เพราะมีการร้องเรียนเรื่องรายละเอียดของทีโออาร์ จึงได้ยกเลิกไป และนำมาเปิดประมูลใหม่ แต่ก็เป็นช่วงปรับเปลี่ยนรัฐบาลพอดี ทำให้ต้องชะลอการประมูลออกไปก่อน จนมาถึงครั้งล่าสุดที่จะประมูลในเดือน พ.ค.นี้
ส่วนกรณีที่จะพิสูจน์ว่าข้าวมีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้หรือไม่นั้น นายกฤษณรักษ์ กล่าวว่า อคส.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพข้าวในช่วงก่อนฝากเก็บข้าวในโกดัง และตลอดระยะเวลาการฝากเก็บ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยของข้าว โดยเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลมากกว่า ซึ่งก่อนการนำข้าวไปขายสู่ผู้บริโภคโดยทั่วไปผู้ชนะประมูลต้องปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนอยู่แล้ว เช่น การอบข้าว ขัดสี แยกเมล็ดแตกหักออก เป็นต้น แต่ทราบว่าผู้ส่งออกสนใจประมูลเพื่อส่งออก เพราะมีหลายประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่า ข้าวสีเหลือง ไม่นิยมข้าวเมล็ดสีขาว เช่น ประเทศในแถบแอฟริกา ตะวันออกกลาง ฯลฯ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 67)
Tags: ข้าว, จำนำข้าว, ประมูล, องค์การคลังสินค้า