ข่าว
ลาวเน้นย้ำความเป็นเอกภาพของอาเซียน รับมือการแข่งขันของมหาอำนาจในภูมิภาค
ก.ค.
รัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้ประชุมร่วมกัน ณ กรุงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ในวันนี้ (25 ก.ค.) โดยในโอกาสนี้ ประเทศลาวซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปัจจุบัน ได้เน้นย้ำให้ชาติสมาชิกรักษาความเป็นเอกภาพท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งชัดเจนว่าหมายถึงการแข่งขันของมหาอำนาจที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค
นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลาว กล่าวในการประชุมว่า “เมื่อพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิเศรษฐศาสตร์ที่รวดเร็วและซับซ้อนแล้ว เราจำเป็นต้องเสริมสร้างความเป็นศูนย์กลางและความเป็นเอกภาพของอาเซียนให้มากขึ้น เพื่อยกระดับความสัมพันธ์และความยืดหยุ่นของอาเซียน”
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเมียนมามีแนวโน้มว่าจะเป็นวาระหลักของการประชุมครั้งนี้ ซึ่งนายอ่อง จ่อ โม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา เข้าร่วมด้วย โดยถือเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ตัวแทนจากรัฐบาลทหารเมียนมาได้เข้าร่วมการประชุมอาเซียนในประเทศลาว ภายหลังการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเมื่อเดือนม.ค. และการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในเดือนมี.ค.
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งจัดตั้งขึ้นในเดือนก.พ. 2564 หลังโค่นล้มรัฐบาลของนางอองซานซูจี ไม่ยอมส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน หลังจากที่ชาติสมาชิกรายอื่น ๆ อนุญาตให้เมียนมาส่งตัวแทนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเข้าร่วมเท่านั้น
นอกจากนี้ นายอ่อง จ่อ โม จะร่วมหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติพันธมิตรของอาเซียนด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงในการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum) ในวันเสาร์ (27 ก.ค.) ที่มีรัฐมนตรีหลายคนเข้าร่วม เช่น นางโยโกะ คามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น, นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน, นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เป็นต้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทะเลจีนใต้ที่บางประเทศในอาเซียนอ้างอธิปไตยทับซ้อนกันกับจีน ก็จะอยู่ในวาระการประชุมด้วยเช่นเดียวกัน ขณะที่จีนและอาเซียนกำลังร่างหลักปฏิบัติเพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากันในน่านน้ำ
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 67)