รายงานของศูนย์วิจัยแห่งมหาวิทยาลัยนางาซากิระบุว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่ประเทศต่างๆ ครอบครองอยู่ทั่วโลกนั้นอยู่ที่ประมาณ 13,130 ลูก ณ เดือนมิ.ย. ซึ่งลดลง 280 ลูกเมื่อเทียบรายปี เนื่องจากนานาประเทศพยายามที่จะลดและปรับปรุงคลังอาวุธให้ทันสมัย ท่ามกลางความตึงเครียดที่ลุกลามในหมู่ชาติมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า จำนวนหัวรบนิวเคลียร์ที่ลดลงไม่ได้บ่งชี้ว่า การแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ของแต่ละชาตินั้นชะลอตัวลงแต่อย่างใด เนื่องจากหัวรบในคลังอาวุธทหารไม่ได้ลดลงใน 9 ประเทศ
ทั้งนี้ การสำรวจของศูนย์วิจัยและข้อมูลจากสถาบันและนักวิจัยทั่วโลกระบุว่า จำนวนหัวรบในคลังอาวุธทหารทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 9,615 ลูก จากระดับ 9,346 ลูก โดยมีรัสเซียและสหรัฐถือครองอยู่ในสัดส่วน 86% ของจำนวนหัวรบทั่วโลก
ผลสำรวจระบุว่า “สหรัฐและรัสเซียได้แข่งขันกันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ท่ามกลางความตึงเครียด และความขัดแย้งใน 3 ประเทศรวมถึงจีนที่ยังคงดำเนินต่อไป”
สำหรับประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ทั้ง 9 ประเทศนั้น รัสเซียมีหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากที่สุด 6,260 ลูก รองลงมาคือสหรัฐ 5,550 ลูก, จีน 350 ลูก, ฝรั่งเศส 290 ลูก, อังกฤษ 225 ลูก, ปากีสถาน 165 ลูก, อินเดีย 160 ลูก, อิสราเอล 90 ลูก และเกาหลีเหนือ 40 ลูก
จีนและอังกฤษได้เพิ่มหัวรบนิวเคลียร์จำนวน 30 ลูกจากปีก่อนหน้า ขณะที่ปากีสถาน, อินเดีย และเกาหลีเหนือเพิ่มหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 5-10 ลูก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 64)
Tags: นิวเคลียร์, ศูนย์วิจัยแห่งมหาวิทยาลัยนางาซากิ, อาวุธนิวเคลียร์