ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมในวันนี้ (19 พ.ย.) ว่า RBA มองว่าการกำหนดนโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับความพยายามของ RBA ที่จะชะลออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ซึ่งยังคงอยู่ในระดับ “สูงเกินไป” ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้หารือกันถึงสภาวะต่าง ๆ ที่อาจจะทำให้ RBA ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
“นโยบายการเงินของออสเตรเลียได้รับการประเมินว่าอยู่ในระดับที่เข้มงวด … อย่างไรก็ดี ระดับของความเข้มงวดยังคงไม่แน่นอน และภาวะทางการเงินโดยรวมได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้วในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา” RBA ระบุในรายงานการประชุมซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ย.
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า คณะกรรมการ RBA มองว่าการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ RBA ซึ่งมีการเผยแพร่พร้อมกับการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ อยู่บนสมมติฐานทางเทคนิคที่ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังคงอยู่ในระดับปัจจุบันเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนที่จะมีการปรับลดลงหลายครั้งในปี 2568 และ 2569 โดยประเมินว่าความเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีการคาดการณ์นั้น “มีความสมดุล”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า RBA ได้ระบุถึงความเสี่ยงสำคัญในต่างประเทศ 3 ประการ ได้แก่ ความเป็นไปได้ที่นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขนาดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่อาจจะแตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้ และความเสี่ยงโดยทั่วไปที่เกิดจากความไม่ยั่งยืนของการเติบโตด้านหนี้สินของรัฐบาลออสเตรเลีย
สำหรับการประชุมเมื่อวันที่ 5 พ.ย.นั้น คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่ 8 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
มติดังกล่าวของ RBA สวนทางกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงของธนาคารกลางหลายแห่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดย RBA ระบุว่า “เงินเฟ้อของออสเตรเลียปรับตัวลงอย่างมากนับตั้งแต่ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในปี 2565” แต่ขณะเดียวกันก็เสริมด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
นอกจากนี้ RBA คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียจะยังไม่กลับสู่จุดกึ่งกลางของกรอบเป้าหมายที่ระดับ 2% – 3% จนกว่าจะถึงปี 2569
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ย. 67)
Tags: RBA, ธนาคารกลางออสเตรเลีย, นโยบายการเงิน, ออสเตรเลีย, อัตราดอกเบี้ย, แบงก์ชาติออสเตรเลีย