สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอรายงานฉบับหนึ่งในวันนี้ (12 มิ.ย.) โดยระบุว่า บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลที่กำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ หรือเน็ตซีโร่ (Net Zero) มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่แล้ว แต่ส่วนใหญ่กลับไม่ได้พูดถึงวิธีแก้ไขข้อกังวลหลัก ๆ ในเป้าหมายของตน ทำให้แผนเหล่านี้ “ส่วนใหญ่แล้วไร้ความหมาย”
รายงาน “เน็ตซีโร่แทรกเกอร์” (Net Zero Tracker) ทำการประเมินโดยใช้ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ พบว่า ปัจจุบันบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ใหญ่ที่สุดในโลกประมาณ 75 แห่งจากทั้งหมด 112 แห่ง ได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเน็ตซีโร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 51 แห่งในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานเอเนอร์จี แอนด์ ไคลเมต อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Energy and Climate Intelligence Unit) ในสหราชอาณาจักรและมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระบุว่า เป้าหมายส่วนใหญ่ของบริษัทเหล่านี้ไม่ครอบคลุมหรือขาดความโปร่งใสในเรื่องการปล่อยมลพิษในขอบเขตที่ 3 ซึ่งรวมถึงเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท อันเป็นแหล่งที่มาของการปล่อยมลพิษที่ใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือไม่ได้ระบุแผนการลดมลพิษระยะสั้น ซึ่งทำให้แผนการเหล่านี้ “ส่วนใหญ่แล้วไร้ความหมาย”
นอกจากนี้ รายงานยังพบว่า ไม่มีบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใดให้คำมั่นว่าจะเลิกสกัดหรือผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลอีกด้วย
อนึ่ง ขณะนี้มีประเทศ, รัฐ, ภูมิภาค, เมือง และบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกรวมกันกว่า 4,000 แห่งได้ให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเน็ตซีโร่ โดยในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ทางสหประชาชาติ (UN) ได้ออกแถลงการณ์ว่ากลยุทธ์เน็ตซีโร่ “ที่ดี” ควรมีลักษณะอย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงการฟอกเขียว
“เรายังไม่เห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือบริษัทอื่น ๆ ในการปฏิบัติตาม (แนวทางปฏิบัติ) เหล่านั้น ดังนั้นจึงยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อก้าวไปสู่ระดับนั้น” นายโธมัส เฮล แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ กล่าว
ทั้งนี้ การศึกษาอีกฉบับหนึ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวารสารไซเอนซ์ (Science) พบว่า 90% ของเป้าหมายเน็ตซีโร่ของประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้มจะไม่บรรลุผล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 66)
Tags: สิ่งแวดล้อม, เน็ตซีโร่