สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัสเซียกลายเป็นชาติที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุดในโลก แซงหน้าอิหร่านและซีเรียภายในระยะเวลาเพียง 10 วัน หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียสั่งบุกยูเครน
เว็บไซต์แคสเทลลัมดอทเอไอ (Castellum.ai) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลติดตามการคว่ำบาตรทั่วโลกเปิดเผยว่า รัสเซียถูกคว่ำบาตรรอบใหม่ไปแล้ว 2,778 รายการ นำโดยสหรัฐและชาติพันธมิตรยุโรปตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. ซึ่งเมื่อรวมกับของเดิมแล้ว ทำให้รัสเซียถูกคว่ำบาตรไปมากกว่า 5,530 รายการ สูงกว่าอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร 3,616 รายการในรอบทศวรรษ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากโครงการนิวเคลียร์และการสนับสนุนการก่อการร้าย
อนึ่ง ประเทศอื่น ๆ ที่ถูกคว่ำบาตรมากที่สุดรองจากรัสเซียและอิหร่าน ประกอบด้วยซีเรีย, เกาหลีเหนือ, เวเนซุเอลา, เมียนมา และคิวบา
รัสเซียเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นเกือบทุกวัน โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 มี.ค.) บริษัทเน็ตฟลิกซ์, เคพีเอ็มจี และไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) ประกาศระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย ตามรอยบริษัทในสหรัฐและยุโรปหลายแห่ง อาทิ ไนกี้, อิเกีย และแอร์เมส ที่ได้ปิดร้านสาขา, สำนักงาน และยุติการดำเนินงานในรัสเซีย
นายปีเตอร์ เพียเทตสกี ผู้ร่วมก่อตั้งแคสเทลลัมดอทเอไอ และอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังในรัฐบาลสมัยปธน.โอบามาและปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า “นี่เป็นสงครามนิวเคลียร์ทางการเงินและการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากที่รัสเซียเคยเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก กลับตกเป็นเป้าหมายรายใหญ่ที่สุดเพียงหนึ่งเดียวของการคว่ำบาตรจากทั่วโลก และถูกตัดออกจากระบบการเงินโลกภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 65)
Tags: คว่ำบาตร, ซีเรีย, ปีเตอร์ เพียเทตสกี, รัสเซีย, อิหร่าน