รัฐอำนวยความสะดวกส่ง 5 ตัวประกันแรงงานไทยกลับสู่ภูมิลำเนา

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือตัวประกันแรงงานไทยในอิสราเอลที่เหลืออยู่อีก 1 คนนั้นจะดำเนินการต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็จะนำร่างตัวประกันแรงงานไทยที่เสียชีวิตอีก 2 คนกลับมาสู่มาตุภูมิโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ยังได้หารือกับรัฐบาลอิสราเอลว่าจะต้องมีความพยายามร่วมกันที่จะยกระดับแรงงานที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลให้สามารถพัฒนาศักยภาพตนเองและกลายเป็นผู้ประกอบการได้ เพราะไม่อยากให้ยุติอยู่เพียงแค่ในฐานะแรงงานเท่านั้น ตลอดจนดึงเอาแรงงานฝีมือใหม่ ๆขึ้นมาทดแทน

“ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เคยคิดว่าจะหมดหวัง และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายมาริษ กล่าว

ส่วนเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่แรงงานไทยทั้ง 5 คนจะได้รับนั้น ทางกระทรวงแรงงานจะดำเนินการตามสิทธิที่จำเป็นต้องได้ ส่วนของประเทศอิสราเอลเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตที่จะต้องคุยกับรัฐบาลอิสราเอล

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากตัวประกันแรงงานไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอลเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว กระทรวงแรงงานได้จัดเตรียมรถตู้จำนวน 3 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งแรงงาน 3 คนพร้อมญาติ คือ นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์, นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน กลับสู่ภูมิลำเนา ส่วนอีก 2 คน คือ นายวัชระ ศรีอ้วน และ นายสุระศักดิ์ ลำเนา ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาที่ จ.อุดรธานี โดยเครื่องบินสายการบินเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ204 ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 12.45 น. ถึงสนามบินอุดรธานี เวลา 14.05 น. โดยกรมการจัดหางานจะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อสอบถามความต้องการกับแรงงานในการจัดหาตำแหน่งงานตามความประสงค์ รวมทั้งความต้องการในการฝึกอาชีพ ตลอดจนติดตามสิทธิประโยชน์ให้ได้รับครบถ้วนต่อไป

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่แรงงานทั้ง 5 คนจะได้รับ ได้แก่ 1) เงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงครามจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศจำนวน 15,000 บาท 2) เงินบำเหน็จชราภาพจากสิทธิประโยชน์ของประกันสังคม ซึ่งแต่ละคนเคยเป็นผู้ประกันตนมาก่อน ดังนี้ นายวัชระ 1,431.36 บาท, นายพงษ์ศักดิ์ 10,982.02 บาท, นายเสถียร 53,058.65 บาท, นายสุระศักดิ์ 12,637.61 บาท และ นายบรรณวัชร 7,829.28 บาท 3) เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล ประกอบด้วย บัตรเงินสดจำนวน 10,000 เชคเกล โอนเงินเข้าบัญชี 50,000 เชคเกล เงินช่วยเหลือรายเดือนจนถึงอายุ 67 ปี จ่ายเงินชดเชยรายเดือน 3,300 เชคเกลต่อเดือน อายุ 67-80 ปี จ่ายเงินชดเชยรายปี 39,000 เชคเกล และการจ่ายเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป จ่ายเงิยชดเชยรายปี 49,000 เชคเกล โดยในเดือนแรกแรงงานไทยทั้ง 5 คน จะได้รับเงินชดเชยประมาณคนละ 60,000 เชคเกล หรือประมาณ 600,000 บาท และ 4) เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง ซึ่งสำนักงานแรงงานจะประสานติดตามให้

“ที่ผ่านมารัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ต่างใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และทุกคนมีความเป็นห่วง จนนำมาสู่วันนี้ที่แรงงานไทยได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอยภัย กระทรวงแรงงานเชื่อมั่นว่า แรงงานไทยที่เหลืออีก 1 ราย จะได้รับการช่วยเหลือกลับมาในเร็ววันต่อไป” นายบุญสงค์ กล่าว

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 มีแรงงานไทยเสียชีวิต 46 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 28 ราย ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 1 ราย โดยทางการอิสราเอลยืนยันพบหลักฐานตัวประกัน 2 รายเสียชีวิต และร่างยังไม่ได้รับการส่งกลับ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.พ. 68)

Tags: , ,