ทางการรัฐวิกตอเรียของออสเตรเลียยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตารายใหม่ในรัฐ แต่ยังไม่สามารถระบุแหล่งต้นตอการติดเชื้อไวรัสดังกล่าวได้
เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียนั้น มีการตรวจพบในสมาชิก 2 รายจากครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านเวสต์เมลเบิร์น อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังคงค้นหาต้นตอที่บุคคลดังกล่าวได้รับเชื้อสายพันธุ์เดลตา โดยก่อนหน้านี้ มีการพบผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับเชื้อสายพันธุ์ที่น่ากังวลดังกล่าว
นายเบรตต์ ซัตตัน ประธานหัวหน้าฝ่ายสาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ากังวล เพราะเราไม่พบความเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้ออื่นๆ ในการระบาดครั้งนี้ ไม่ว่าจากโรงแรมที่กักตัวหรือสถานที่อื่นๆ ในออสเตรเลียก็ตาม”
นายซัตตันแถลงต่อสื่อมวลลชนว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มแพร่กระจายได้รวดเร็ว ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับความรุนแรงของอาการเมื่อได้รับเชื้อนี้ มีเพียงรายงานไม่กี่ชิ้นที่ระบุถึงอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงในเด็ก รวมถึงโอกาสการแพร่เชื้อที่อาจสูงขึ้นในเด็ก ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกังวลในเรื่องนี้
รายงานระบุว่า ครอบครัวดังกล่าวเดินทางไปที่อ่าวเจอร์วิสเบย์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะนี้ทางการรัฐวิกตอเรียกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์, เขตออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี และรัฐบาลกลางออสเตรเลีย
นายซัตตันกล่าวว่า “เรากำลังตรวจสอบว่าใครน่าจะเป็นผู้ได้รับเชื้อรายแรกในครอบครัวนี้ เพื่อสืบหาต้นตอย้อนหลังว่าติดเชื้อสายพันธุ์นี้มาจากที่ใด”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, รัฐวิกตอเรีย, ออสเตรเลีย, อินเดีย, เบรตต์ ซัตตัน, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา