นายฝั่ม มิญ จิ๊ญ นายกรัฐมนตรีเวียดนามเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานอันเกิดจากการระบาดของโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2565 ขณะพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศหลังเกิดการหดตัวรายไตรมาสรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ธุรกิจต่าง ๆ ในเมียนมากำลังเผชิญความยากลำบากในการกลับมาดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ จากผลพวงของภาวะขาดแคลนแรงงานเนื่องจากแรงงานหลายแสนคนหลั่งไหลออกจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเดือนต.ค. เมื่อรัฐบาลยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19
ทั้งนี้ นายฝั่มกล่าวว่า “การระบาดระลอกที่ 4 ของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดแรงงาน ขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง” โดยเสริมว่า การแห่อพยพออกจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมเพื่อกลับสู่ถิ่นกำเนิดหลังรัฐบาลยกเลิกการควบคุมการเดินทางนั้นได้ก่อให้เกิดปัญหาต่อธุรกิจและสร้างความซับซ้อนให้กับความพยายามในการควบคุมไวรัส
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในสัปดาห์นี้ บริษัท Pou Chen Corp ของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้ากีฬาให้กับแบรนด์ต่าง ๆ รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ระบุว่า พนักงานประมาณ 6% ในนครโฮจิมินห์ลาออก และทางบริษทกำลังเผชิญกับภาวะชะงักงันด้านการผลิต
สำหรับเวียดนามนั้นนับเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าสำคัญ โดยผลิตสินค้าป้อนให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง ซาร่า, ราล์ฟ ลอเรน, นอร์ธ เฟซ, ลาคอส และไนกี้ ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการผลิตให้กับบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซัมซุง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 พ.ย. 64)
Tags: ขาดแคลนแรงงาน, ฝั่ม มิญ จิ๊ญ, เวียดนาม, เศรษฐกิจเวียดนาม