รัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลียประกาศว่า ผู้อยู่อาศัยในรัฐจะได้รับอิสระเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์นี้ (8 พ.ย.) เป็นต้นไป เร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้คือวันที่ 1 ธ.ค. เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 คืบหน้าเร็วกว่าที่คาดไว้
สำหรับกฎระเบียบใหม่นั้น รัฐนิวเซาท์เวลส์จะยกเลิกมาตรการจำกัดจำนวนผู้ที่มาเยี่ยมบ้าน และอนุญาตให้ธุรกิจต่าง ๆ รับลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่า ส่วนสถานที่เพื่อความบันเทิง อาทิ สนามกีฬา โรงละคร และโรงภาพยนตร์ จะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามปกติโดยไม่จำกัดที่นั่ง
อย่างไรก็ดี ผู้อยู่อาศัยที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสเท่านั้นที่จะได้รับอิสระดังกล่าว ส่วนผู้ที่ยังรับวัคซีนไม่ครบโดสจำเป็นต้องรอถึงวันที่ 15 ธ.ค. หรือเมื่ออัตราการฉีดวัคซีนในรัฐสูงถึง 95% และจนกว่าจะถึงเวลานั้นผู้อยู่อาศัยทุกคนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อยู่ภายในพื้นที่สาธารณะ
ทั้งนี้ เมื่อนับถึงวันที่ 6 พ.ย. ประชากรที่อายุ 16 ปีขึ้นไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดส 93.9% และได้รับวัคซีนครบแล้ว 89.8% ขณะเดียวกันรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 187 ราย และมีผู้เสียชีวิต 7 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง เมื่อนับถึง 20.00 น. ของวันที่ 7 พ.ย.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย.) ยังเป็นวันแรกที่ออสเตรเลียเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มบูสเตอร์อย่างเป็นทางการ ทางด้านนายเกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์จะเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนโดสสองครบ 6 เดือน โดยออสเตรเลียจะฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกคนด้วยวัคซีนของไฟเซอร์ ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะรับวัคซีนของบริษัทใดก็ตาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)
Tags: XINHUA, คลายล็อกดาวน์, นิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย, เกร็ก ฮันท์