นายโจนาธาน ฮีธ รองผู้ว่าการธนาคารกลางเม็กซิโก (Banxico) เปิดเผยว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านั้นส่งผลต่อนโยบายการเงินของเม็กซิโก
นายฮีธกล่าวว่า เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างเศรษฐกิจสหรัฐกับเม็กซิโก ทำให้การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางเม็กซิโกจะไม่สามารถสวนทางกับของเฟดได้
“เราไม่สามารถกำหนดนโยบายการเงินที่เป็นอิสระหรือสวนทางกับเฟดได้ ถ้าเฟดเริ่มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ผมคิดว่านั่นก็จะเป็นตัวกำหนดเพดานดอกเบี้ยของเรา”
นายฮีธกล่าว
นายฮีธยังเสริมว่า ธนาคารกลางเม็กซิโกอยู่ในช่วงที่ตัดสินใจได้ลำบากเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาสินค้าที่ผันผวนบางรายการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของเม็กซิโกพุ่งขึ้นแตะ 6.21% ในรอบปีที่นับถึงเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2544 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 7.07% ซึ่งยังคงสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 3% ของธนาคารกลางเม็กซิโกกว่า 2 เท่า
นายฮีธเน้นว่า การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางเม็กซิโกจำเป็นต้องหาจุดสมดุลระหว่างปัญหาเงินเฟ้อที่สูง สภาวะทางเศรษฐกิจเชิงลบที่เกิดขึ้นเป็นวัฏจักรในเม็กซิโก และวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่มีคาดการณ์ไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.พ. 65)
Tags: Banxico, ธนาคารกลางเม็กซิโก, นโยบายการเงิน, อัตราเงินเฟ้อ, เม็กซิโก, โจนาธาน ฮีธ