นายวิลเลียม ไล่ รองประธานาธิบดีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์เมื่อคืนวันเสาร์ (19 ส.ค.) กับสถานีโทรทัศน์ของไต้หวันว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันในปีหน้าจะเป็นการเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ และไม่ใช่เรื่องอะไรของจีนที่จะเข้ามาตัดสินว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายไล่อยู่ที่นิวยอร์กเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว แต่เพิ่งออกอากาศเมื่อคืนนี้หลังจากที่กองทัพจีนเริ่มซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวัน เพื่อแสดงความไม่พอใจที่นายไล่เดินทางไปแวะเยือนสหรัฐ
“จีนจะโปรดปรานใครในวันนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าคนนั้นจะสามารถรับตำแหน่งได้เลย เรื่องนี้ขัดต่อจิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยของไต้หวัน และแสดงถึงความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบอบประชาธิปไตยของไต้หวัน” นายไล่กล่าว
นายไล่พูดถึงปฏิกิริยาของจีนที่มีต่อการเดินทางต่างประเทศของผู้นำไต้หวันว่า จีนไม่ควร “เอะอะโวยวายในเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“จุดยืนของผมคือไต้หวันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน เรายินดีที่จะมีส่วนร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศและพูดคุยกับจีนภายใต้การรับประกันความปลอดภัย”
นายไล่กล่าวว่า จีนต้องการ “ผนวก” ไต้หวันมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มต้นในช่วงที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) เป็นรัฐบาลไต้หวัน พร้อมยกตัวอย่างกรณีการสู้รบตามแนวชายฝั่งจีนในคริสต์ทศวรรษ 1950 ซึ่งเป็นช่วงที่จีนยึดเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่ภายใต้การปกครองของไต้หวัน
“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การเลือกระหว่างสันติภาพกับสงคราม เราไม่สามารถออเดอร์จากเมนูได้ว่า เลือกสันติภาพแล้วก็จะมีสันติภาพ เลือกสงครามแล้วก็จะมีสงคราม มันไม่ใช่แบบนั้น ประเด็นก็คือเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกเอาว่าเราต้องการประชาธิปไตยหรือเผด็จการ นี่คือทางเลือกที่แท้จริงที่เราต้องตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้”
ทั้งนี้ นายไล่ ตัวเก็งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของไต้หวันในการเลือกตั้งในเดือนม.ค. ปีหน้า ได้เดินทางกลับจากสหรัฐในวันศุกร์ (18 ส.ค.) ซึ่งเขาได้ไปแวะพักที่สหรัฐระหว่างการเดินทางไปและกลับจากปารากวัย และยังกล่าวสุนทรพจน์ในสหรัฐด้วย
หลังการเยือนดังกล่าว กองทัพจีนตอบโต้ด้วยการเริ่มซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันโดยระบุว่าเป็นการเตือนต่อกลุ่มที่ต้องการแยกตัวเป็นอิสระจากจีน
กระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวเมื่อเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) ว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เครื่องบินของกองทัพอากาศจีน 25 ลำได้ฝ่าแนวกึ่งกลางของช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่าย จนกระทั่งเครื่องบินทหารของจีนเริ่มบินตัดผ่านเป็นประจำเมื่อปีที่แล้ว
ในจำนวนเครื่องบินดังกล่าวรวมถึงเครื่องบินขับไล่ Su-30 และ J-11 ตามแผนที่ที่กระทรวงฯ เผยแพร่ อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจีนจะดำเนินการซ้อมรบต่อไปในวันนี้
เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวว่าจีนมีแนวโน้มที่จะซ้อมรบใกล้กับเกาะไต้หวัน โดยใช้เรื่องนายไล่แวะเยือนสหรัฐเป็นข้ออ้าง เพื่อข่มขู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในปีหน้า และทำให้โหวตเตอร์ “กลัวสงคราม”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 66)
Tags: จีน, วิลเลียม ไล่ ชิงเต๋อ, เลือกตั้ง, ไต้หวัน