รมว.พาณิชย์ เตรียมบินสวิส ลงนาม FTA “ไทย-เอฟตา” ฉบับแรกกับยุโรป

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดการเดินทางเข้าร่วมการประชุมประจำปี World Economic Forum (WEF) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 มกราคม 2568 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส โดยจะได้เข้าร่วมลงนามความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือ “เอฟตา” (European Free Trade Associations : EFTA) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยาน

พร้อมทั้งเข้าร่วมการหารืออย่างไม่เป็นทางการ กับรัฐมนตรีประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะจัดขึ้นต่อเนื่องกับการประชุม WEF เพื่อเดินหน้าผลักดันการค้าไทยในเวทีโลก และจะร่วมหารือประเด็นการค้า กับนางเอ็นโกซี โอคอนโจ-อิเวลลา ผู้อำนวยการใหญ่ของ WTO ในการแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นด้านการค้า และความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือของ WTO ของไทยด้วย

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ได้เห็นชอบผลการเจรจาจัดทำ FTA ระหว่างไทยกับเอฟตา ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ หลังจากที่เร่งรัดการเจรจามาตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยพิธีลงนามจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มกราคม 2567 ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี และตน จะเดินทางเข้าร่วมการประชุม WEF

ซึ่งการลงนามครั้งนี้ จะถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เร่งเจรจาจัดทำ FTA กับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าและบริการของไทย สร้างแต้มต่อ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพ และอุตสาหกรรมใหม่

“ความสำเร็จของ FTA ฉบับนี้ ถือเป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์การค้าไทย เนื่องจากเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศในยุโรป มีความทันสมัย มาตรฐานสูง สอดคล้องกับพัฒนาการของกฎเกณฑ์การค้ายุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจะปูทางไปสู่การเจรจาจัดทำ FTA ของไทยกับคู่ค้าสำคัญอื่น ๆ เช่น สหภาพยุโรปต่อไป” นายพิชัย ระบุ

ทั้งนี้ ในปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ยังวางเป้าหมายที่จะเดินหน้าเร่งจัดทำ FTA กับคู่ค้าอื่น ๆ เช่น ภูฏาน และ เกาหลีใต้ เพิ่มเติมด้วย

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสเข้าร่วมประชุม WEF ครั้งนี้ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลกอย่างไม่เป็นทางการ (Informal WTO Ministerial Gathering: IMG) ซึ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มเล็ก ที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 20-30 คน โดยประเทศเจ้าภาพจะคัดเลือกเฉพาะสมาชิก WTO ที่มีบทบาทสำคัญเท่านั้นมาเข้าร่วมประชุม จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะได้แสดงวิสัยทัศน์ และบทบาทในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ WTO เพื่อผลักดันประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อไทย เช่น การเจรจาการเกษตร ความตกลงการอุดหนุนประมง และการปฏิรูป WTO เป็นต้น

และในประชุม World Economic Forum (WEF) 2025 ในครั้งนี้ รมว.พาณิชย์ จะเข้าร่วมการประชุมใน 4 Session สำคัญ ได้แก่ Multilat/ASEAN DEFA, Leaving Asia’s Comfort Zone, Trade and Investment Leadership Lunch และ Country Strategy Dialogue on Thailand หวังที่จะใช้โอกาสในการเดินทางปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ หารือกับผู้กำหนดนโยบายของประเทศต่าง ๆ และนักธุรกิจจากองค์กรชั้นนำของโลก เพื่อปูทางขยายความสัมพันธ์ทางการค้า และดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เข้ามายังประเทศไทย เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าต่อไป

อนึ่ง ในปี 2567 (ม.ค. – พ.ย.) ไทยกับเอฟตา มีมูลค่าการค้ารวม 11,467.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 2.06% ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24.94% โดยไทยส่งออกไปเอฟตา 4,121.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากเอฟตา 7,345.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเอฟตาได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็กและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องสำอาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ข้าว

ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากเอฟตา ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ยากำจัดศัตรูพืช เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง และแปรรูป เคมีภัณฑ์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ม.ค. 68)

Tags: ,