นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายชานโดร์ ชีโปช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางส่งเสริมการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการกระชับความสัมพันธ์ในทุกมิติกับต่างประเทศ รวมทั้งการกระตุ้นและพลิกฟื้นเศรษฐกิจ อาทิ การสร้างรายได้โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุก การผลักดันการส่งออก การใช้ประโยชน์จาก FTA รวมถึงการสร้างโอกาสทางการค้าให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และการเสริมสร้างความสามารถให้ภาคธุรกิจของไทย สามารถปรับตัวและทำการค้าภายใต้ระเบียบการค้าโลกใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้
นอกจากนี้ ไทยยังได้เชิญชวนฮังการีทำการค้าในสินค้าศักยภาพของไทยเพิ่มเติม อาทิ สินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ วัสดุก่อสร้างคุณภาพสูง และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มทางเลือกของสินค้าคุณภาพดีให้กับผู้บริโภคในฮังการี และสนับสนุนการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองฝ่าย รวมถึงการหาลู่ทางและโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ร่วมกัน อาทิ การขยายตลาด Soft Power ในธุรกิจอาหารและแฟชั่น และได้เชิญชวนให้เข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC
- ฮังการี หนุนไทยเจรจาทำ FTA กับอียู
ขณะที่ฮังการีให้การสนับสนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญ และประโยชน์ในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนช่วยยกระดับมาตรฐานระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายสู่ความเป็นสากล
ทั้งนี้ ฮังการีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 11 ของไทยในอียู และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 51 ของไทยในตลาดโลก โดยในช่วง 11 เดือนของปี 66 (ม.ค.-พ.ย.) การค้าระหว่างไทยกับอียู มีมูลค่า 719.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า มูลค่า 247.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปฮังการี มูลค่า 483.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากฮังการี มูลค่า 236.02 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ ก๊อก วาวล์และส่วนประกอบ และวงจรพิมพ์ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 67)
Tags: Soft Power, กระทรวงพาณิชย์, ทูตฮังการี, ภูมิธรรม เวชยชัย, รัฐบาลไทย