ยูเครนกำลังเรียกร้องให้บรรดาบริษัทระดับโลกถอนกิจการออกจากรัสเซีย และย้ายมาตั้งธุรกิจในยูเครนแทน ท่ามกลางการไล่ยึดทรัพย์สินของบริษัทต่างชาติโดยรัฐบาลรัสเซีย
นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ลงนามในกฤษฎีกาเมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.ค.) ซึ่งอนุญาตให้รัฐบาลเข้าควบคุมกิจการบริษัทสาขาย่อยในรัสเซียของบริษัทต่างชาติสองแห่งได้แก่ ดานอน (Danone) บริษัทผู้ผลิตอาหารของฝรั่งเศส และคาร์ลสเบิร์ก (Carlsberg) บริษัทผู้ผลิตเบียร์ของเดนมาร์ก โดยรัฐบาลรัสเซียจะเข้าบริหารงานของสองบริษัทดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทต่างชาติประมาณ 1,000 แห่งเริ่มกระบวนการถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนอย่างผิดกฎหมายเมื่อเดือนก.พ. 2565 แต่บริษัทหลายแห่งยังไม่สามารถขายสินทรัพย์ในรัสเซียได้
การเข้าควบคุมกิจการของดานอนและคาร์ลสเบิร์กถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลรัสเซียเข้ายึดบริษัทลูกของบริษัทตะวันตก นับตั้งแต่เข้ายึดบริษัทลูกของฟอร์ทัม (Fortum) บริษัทพลังงานของฟินแลนด์ และยูนิเปอร์ (Uniper) บริษัทพลังงานของเยอรมนีเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลรัสเซียกล่าวว่าเป็นการตอบโต้ที่กลุ่มประเทศตะวันตกยึดทรัพย์สินของรัสเซีย
นายเซอร์เก ซิฟคาช ซีอีโอของยูเครนอินเวสต์ (UkraineInvest) ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมายังยูเครน และส่งเสริมให้ยูเครนเป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาวที่ปลอดภัยสำหรับธุรกิจระหว่างประเทศกล่าวว่า กำลังให้ความสนใจในบริษัทต่างชาติที่หยุดลงทุนในรัสเซีย
“เราให้ความสนใจกับบรรดาบริษัทที่หยุดแผนการลงทุนในรัสเซียเป็นอย่างมาก” นายชิฟคาชกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อปลายเดือนมิ.ย.
“เราพบว่ามีบริษัทระดับโลกประมาณ 200 แห่งที่หยุดกิจกรรมการลงทุนในรัสเซีย และเรากำลังติดต่อกับพวกเขา เพื่อเสนอโอกาสในการตั้งโรงงานผลิตในยูเครนแทนรัสเซีย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 66)
Tags: ยูเครน, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน, เซอร์เก ซิฟคาช