ยูนิลีเวอร์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค คาดการณ์ว่ายอดขายของบริษัทจะปรับตัวขึ้นในปีนี้ แต่อัตรากำไรสุทธิอาจปรับตัวลง เนื่องจากเงินเฟ้อที่ทะยานขึ้น พร้อมระบุว่า บริษัทจะไม่เข้าควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในปีนี้ หลังจากที่ถูกนักลงทุนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกรณีที่บริษัทไม่สามารถเข้าซื้อธุรกิจสุขภาพของแกล็กโซสมิทไคล์น (GSK) ได้
ในปี 2565 ยูนิลีเวอร์คาดการณ์ว่ายอดขายจะขยายตัว 4.5-6.5% โดยบริษัทได้ปรับราคาสินค้าขึ้นเพื่อชดเชยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย
ยูนิลีเวอร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนที่วิตกกังวลเกี่ยวกับข้อเสนอซื้อธุรกิจของ GSK มูลค่า 5 หมื่นล้านปอนด์ (6.8 หมื่นล้านดอลลาร์) รวมถึงการที่บริษัทตัดสินใจซื้อคืนหุ้นมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า
นายอลัน โจป ซีอีโอของยูนิลีเวอร์ เปิดเผยว่า “ทางบริษัทได้พูดคุยกับบรรดาผู้ถือหุ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับความคิดเห็นว่าเราควรต้องประเมินการเปลี่ยนแปลงของพอร์ตการลงทุนของบริษัท”
อนึ่ง ยูนิลีเวอร์รายงานว่า ยอดขายปรับตัวขึ้น 4.9% ในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากผู้คนนิยมรับประทานอาหารที่บ้านกันมากขึ้นในช่วงเกิดโรคระบาด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่เหนือระดับคาดการณ์เบื้องต้นของบริษัทที่ 3.8%
สำหรับทั้งปี 2564 อัตราการขยายตัวของยอดขายอยู่ที่ 4.5% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 9 ปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.พ. 65)
Tags: GSK, ยูนิลีเวอร์, อลัน โจป, แกล็กโซสมิทไคล์น