สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากประชากรเกือบครึ่งหนึ่งภายในประเทศได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี คาดว่าออสเตรเลียจะเปิดประเทศในไม่ช้านี้ หลังจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นแซงหน้าหลายประเทศในโลก
รายงานของ ABS ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของออสเตรเลียลดลง 1.7% แตะระดับ 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.217 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากที่ลดลง 2.7% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวลงน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะลดลง 2.5%
ภาคค้าปลีกซึ่งมีมูลค่า 3.60 แสนล้านดอลลาร์ออสเตรเลียนั้น มีสัดส่วนสูงถึง 18% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และคาดว่าภาคค้าปลีกจะชะลอตัวลงอีกในเดือนก.ย. เนื่องจากเมืองซิดนีย์, เมลเบิร์น และแคนเบอร์รา ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของออสเตรเลียมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสนี้ แต่คาดว่าเศรษฐกิจในรัฐนิวเซาท์เวลส์จะฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวด และประชาชนได้พากันเข้ารับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐนิวเซาท์เวลส์มีการเริ่มต้นช้ากว่าพื้นที่อื่น ๆ ในการฉีดวัคซีน แต่ขณะนี้มีประชากรวัยผู้ใหญ่เกือบ 86% ได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว และมีประชากรถึง 60% ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดส ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือนต.ค.นี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์จะแซงหน้าโปรตุเกสด้วยการมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสจำนวนสูงถึง 84%
สำหรับออสเตรเลียทั้งประเทศนั้น ขณะนี้มีประชาชนได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว 77% และคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสจะแซงหน้าสหรัฐในไม่ช้านี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ย. 64)
Tags: ยอดค้าปลีก, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ล็อกดาวน์, สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย, ออสเตรเลีย, เศรษฐกิจออสเตรเลีย