สำนักงานสถิติแห่งชาติของมาเลเซีย (DOSM) รายงานในวันนี้ (17 พ.ค.) ว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของมาเลเซีย ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นล้านริงกิต แตะที่ 9.38 แสนล้านริงกิตในไตรมาส 1/2567 โดยเพิ่มขึ้นจาก 9.26 แสนล้านริงกิตในไตรมาส 4/2566
รายงานระบุว่า ภาคบริการยังคงเป็นภาคส่วนที่ได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากที่สุด ด้วยมูลค่า 4.766 แสนล้านริงกิต หรือคิดเป็น 50.8% ของยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด รองลงมาคือภาคการผลิต 3.904 แสนล้านริงกิต (41.6%) ตามมาด้วยภาคเหมืองแร่และเหมืองหิน 4.61 หมื่นล้านริงกิต (4.9%)
ขณะเดียวกัน ยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (DIA) ของมาเลเซีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.836 แสนล้านริงกิตในไตรมาส 1/2567 จากระดับ 6.644 แสนล้านริงกิตในไตรมาส 4/2566 โดยยอดสูงสุดอยู่ในภาคบริการ ด้วยมูลค่า 4.757 แสนล้านริงกิต ตามมาด้วยภาคเหมืองแร่และเหมืองหิน 8.26 หมื่นล้านริงกิต และภาคการผลิต 6.08 หมื่นล้านริงกิต
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มาเลเซียลงทุนโดยตรงในต่างประเทศมากที่สุดในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่า 1.609 แสนล้านริงกิต หรือคิดเป็น 23.5% ของยอดการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศทั้งหมด รองลงมาคืออินโดนีเซีย 7.58 หมื่นล้านริงกิต (11.1%) และเนเธอร์แลนด์ 3.99 หมื่นล้านริงกิต (5.8%)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 67)