นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล (FTI) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ของ FTI เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 65 แล้ว ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 130 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจ ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงานได้ประมาณไตรมาส 2/65
FTI ประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร ได้แก่ เครื่องกรองน้ำ ไส้กรอง สารกรอง ตลอดจนอุปกรณ์สำหรับเครื่องกรองน้ำ รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมฐานผู้บริโภคสินค้ากลุ่มหลักทุกกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มใช้เชิงพาณิชย์ ผู้บริโภคในครัวเรือน และกลุ่มอุตสาหกรรม และมีร้านตัวแทนจำหน่าย Water Store รวม 19 สาขา ตั้งอยู่ประเทศไทย 16 สาขา และในต่างประเทศ 3 สาขา และมีแบรนด์สินค้าที่หลากหลาย
นายวิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FTI กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ในการลงทุนในปี 65-67 ได้แก่ การขยายสาขาภายใต้แบรนด์ Aquatek จำนวน 50 สาขา จากปัจจุบันมี 1 สาขา, ขยายสาขา Water Store จำนวน 5 สาขา จาก 19 สาขาเพื่อใช้ในการตกแต่งอาคารจัดแสดงสินค้าและจัดจำหน่ายสินค้าใหม่ รวมถึงการใช้ในการปรับปรุงอาคารคลังสินค้าในปี 65-66 ได้แก่ ปรับปรุงขยายพื้นที่คลังสินค้าและลงทุนในระบบการจัดการคลังสินค้า ตลอดจนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และยังนำไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตประกอบ ส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต
“บริษัทเชื่อว่าการตัดสินใจระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของ FTI สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเมื่อผนึกเข้ากับผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี และจากการเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำอย่างครบวงจรทั้งในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงบริษัทมีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายผ่านร้าน Aquatek และร้าน Water Store เพื่อขยายฐานผู้บริโภคครอบคลุมทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว พม่า และกัมพูชา ยิ่งทำให้ผลประกอบการ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของ FTI มีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น”
นายวิกร กล่าว
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 738.53 ล้านบาท 875.77 ล้านบาท และ720.75 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่บริษัทฯมีกำไรสุทธิสำหรับปี 62-64 มูลค่าเท่ากับ 37.75 ล้านบาท 70.30 ล้านบาท และ 36.39 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 5.11%, 8.03% และ 5.05%
ปัจจุบัน FTI มีทุนจดทะเบียนจำนวน 450 ล้านบาท แบ่งเป็น 450 ล้านหุ้น โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 320 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 320 ล้านหุ้น บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 65)
Tags: FTI, IPO, ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล, วิกร ภูวพัชร์, วิชา โตมานะ, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ