“พิชัย” ชี้เจรจาภาษีสหรัฐต้องดูเวลา-ความเหมาะสม ลั่นฝ่ายไหนขอเลื่อน ไม่ใช่ประเด็น!

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัยว่า สหรัฐอเมริกาเลื่อนการเจรจาภาษีกับไทย หรือความจริงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้มีการนัดหมายตั้งแต่แรก วา จะเป็นกรณีไทยเลื่อนเจรจา หรือสหรัฐฯ เลื่อนเจรจานั้น ไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่เวลาที่เหมาะสม นี่คือคำตอบ เพราะถ้าเวลาไม่เหมาะสม ไทยก็อยากขอเลื่อนเจรจา

อย่างไรก็ดี ต้องดูแนวทางการเจรจาของประเทศคู่ค้ารายใหญ่ด้วยว่าจะมีข้อตกลงกันอย่างไร เพื่อไทยจะได้นำมาปรับใช้ให้เหมาะสม

“ถ้าถามวันนี้ ต้องดูเวลา โอกาสที่เหมาะสม คือ ข้อ 1 ไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ค้าที่มีขนาดใหญ่ติดใน 10 อันดับแรก แม้ว่าไทยจะได้เปรียบดุลการค้า แต่การเจรจาใด ๆ จะต้องมีกรอบการเจรจา ต้องเดินตามกรอบของรายใหญ่ ดังนั้น ถ้าไทยรู้ว่าคู่ค้ารายใหญ่ตกลงกันได้อย่างไร ไทยก็ต้องหันมาปรับ เพื่อให้เข้ากัน ดังนั้นต้องรอจังหวะเวลา เพราะถึงอย่างไร ก็ต้องคุยเรื่องกรอบใหญ่ให้ได้ข้อยุติก่อน ส่วนข้อ 2 เมื่อมีการดำเนินการไปแล้ว พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาระหว่างการเจรจา ทั้งที่ทราบข่าวอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ก็พบว่ามีการขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องมาตรการอัตราภาษี และมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี” นายพิชัย ระบุ

รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า เคยพูดอยู่เสมอว่าเงื่อนไขทางการค้าที่เปลี่ยนไป นำมาซึ่งเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป วันนี้เงื่อนไขการเงินที่เปลี่ยนไป ส่งผลกระทบต่อทุกคน ดังนั้นการพูดคุยอาจจะต้องมีเรื่องนี้ที่จะต้องประกอบกับเงื่อนไขทางการค้าด้วย

“แอบดีใจที่ไทยคิดไว้ก่อน ซึ่งได้ทราบว่ามีการพูดคุย และสอบถามเรื่องเหล่านี้ และต้องมีการเตรียมการในเรื่องเงื่อนไขทางการเงิน ว่าควรจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะค่าของเงิน อัตราดอกเบี้ย และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไทยก็ต้องเตรียมไว้ และแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน มีเงื่อนไขทางการเงินที่แตกต่างกันออกไป” นายพิชัย ระบุ

นายพิชัย กล่าวว่า ใครจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนการเจรจา ต้องรอดูจังหวะเวลา และวันนี้ไทยก็ต้องดูว่าเตรียมข้อมูลครบถ้วนแล้วหรือไม่ ถ้าทางสหรัฐฯ ได้กรอบแล้ว และอยากพูดคุยกับไทยก็ต้องมีการส่งสัญญาณมา ซึ่งไทยเห็นว่ากรอบการพูดคุยครบถ้วนแล้ว จึงจะเดินทางไป ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ทั้งหมดนี้มีเป็น 100 ประเทศ สุดท้ายแล้วก็จะถูกแยกออกเป็น 2 ประเภท

รองนายกฯ และ รมว.คลัง ยอมรับว่า ท่าทีการเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญหนึ่งที่ต้องติดตาม ซึ่งตนเฝ้าจับตาเงื่อนไขนี้มาโดยตลอด และก็เห็นพัฒนาการไปในทางที่ไทยคาดเดาไว้แล้วว่าจะมาทางนี้ และหวังว่าจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แล้วคลื่นลูกนี้ก็จะเล็กลง และไทยก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น และเรื่องนี้จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องดูควบคู่กันไป

เมื่อถามถึงประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดเรื่องนี้ เพราะการพูดถึงอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลต่อค่าเงิน ซึ่งสหรัฐฯ เคยบอกไว้ว่าไม่ต้องการเห็นการแทรกแซงค่าเงิน ดังนั้นตนมองว่าจึงไม่ควรพูด และให้เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเหมาะสมกว่า

“ผมคิดว่าไม่ควรจะพูด แต่ให้เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้มองเห็นทุกอย่าง ทั้งปริมาณเงินที่อยู่ในเมืองไทย เห็นทุนสำรอง เห็นสถานการณ์การค้า เห็นสภาพเศรษฐกิจ และสภาพคล่องต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องนำกลับไปคิดเองว่าจะต้องทำอย่างไร” นายพิชัย ระบุ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 เม.ย. 68)

Tags: , ,