นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมใช้มาตรการปรับคาร์บอนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ CBAM) ในปี 2566 โดยกำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้า 5 ประเภท ได้แก่ ซีเมนต์ ไฟฟ้า ปุ๋ย เหล็กและเหล็กกล้า และอลูมิเนียม ต้องซื้อใบรับรอง CBAM ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อกระตุ้นให้ประเทศผู้ส่งออกเร่งผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมตามที่อียูกำหนด โดยอียูได้เผยแพร่ร่างระเบียบ CBAM ทางเว็บไซต์ https://eur-lex.europa.eu/legal-content/en/TXT/?uri=CELEX:52021PC0564
สำหรับมาตรการดังกล่าว ในช่วง 3 ปีแรก (2566–2568) ถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้นำเข้าจะต้องแจ้งข้อมูลปริมาณการนำเข้าและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้านำเข้าต่ออียู และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 จะเริ่มบังคับใช้มาตรการ CBAM อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้นำเข้าต้องซื้อและส่งมอบใบรับรอง CBAM ให้หน่วยงานผู้มีอำนาจของประเทศสมาชิกอียู และมีความเป็นไปได้มากที่หลังจากนั้น อียูจะขยายมาตรการให้ครอบคลุมไปถึงสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย
นางอรมน กล่าวว่า ขณะนี้ อียูได้ขยายเวลาการเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างกฎหมาย CBAM ไปจนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ (เวลาบรัสเซลส์) กรมฯ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจหรือมีข้อกังวลต่อมาตรการดังกล่าว สามารถส่งความเห็นได้ที่เว็บไซต์ https://ec.europa.eu/info/law/better-regulation/have-your-say/initiatives/12228-EU-Green-Deal-carbon-border-adjustment-mechanism-_en
นอกจากนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างจัดทำความเห็นต่อร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะข้อกังวลในเรื่องความสอดคล้องกับกติกาขององค์การการค้าโลก (WTO) ความสุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นการเลือกปฏิบัติระหว่างผู้นำเข้ากับผู้ผลิตในอียู และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการค้าระหว่างสองฝ่ายอีกด้วย
“ผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าไปอียู ควรเตรียมความพร้อมในการปรับตัวรับมาตรการ CBAM ที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งรัฐและเอกชนจะต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกระบวนการผลิตไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และใช้พลังงานทางเลือกที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศมากขึ้น นอกจากนี้ กรมฯ ได้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อเตรียมรับมือในเบื้องต้นกับมาตรการดังกล่าวแล้ว”นางอรมน ระบุ
ทั้งนี้ ในปี 2563 ไทยส่งออกสินค้าตามรายการที่ครอบคลุมในมาตรการ CBAM ไปยังอียู เป็นมูลค่า 145.08 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 4.25% ของการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไปสู่โลก ประกอบด้วย เหล็กและเหล็กกล้า 104.46 ล้านเหรียญสหรัฐ (5.03% ของการส่งออกของไทยไปสู่โลก) อลูมิเนียม 40.62 ล้านเหรียญสหรัฐ (4.58% ของการส่งออกของไทยไปสู่โลก) ส่วนซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ไทยส่งออกไปอียูในปริมาณที่น้อยมาก หรือไม่มีการส่งออก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ต.ค. 64)
Tags: กระทรวงพาณิชย์, คาร์บอน, ส่งออก, อรมน ทรัพย์ทวีธรรม, อียู