พาณิชย์อัพเดทชุดรหัสรายการทางบัญชีเวอร์ชันใหม่ใช้งานง่ายสะดวก ลดข้อผิดพลาดงบการเงิน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนิติบุคคลที่ยังดำเนินกิจการและต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในเดือนพฤษภาคม 2568 กว่า 800,000 ราย โดยปีที่ผ่านมานิติบุคคลนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing มากถึง 99.7% แต่ยังมีอีกเพียง 0.3% ที่ยังนำส่งงบการเงินในรูปแบบกระดาษอยู่ ซึ่งกรมฯ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนให้กลุ่มนี้นำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing และเพื่อให้การนำส่งงบการเงินมีความถูกต้องครบถ้วน กรมฯ จึงกำหนดจัดอบรมออนไลน์ในหัวข้อ Update 2568 DBD e-Filing excel v.2.0 รองรับรหัสรายการ ทางบัญชีใหม่ “ปรับตัวให้ไว ใช้งานให้เป็น” เพื่อรองรับการจัดทำงบการเงินรูปแบบใหม่ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี ผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต สมาคมการค้าและหอการค้า ซึ่งการจัดอบรมในแต่ละวันจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบเช้า และรอบบ่าย รอบละ 300 คน กำหนดจัดช่วงแรกระหว่างวันที่ 25,27 มีนาคม 2568 และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 2-3 เมษายน 2568 โดยจะจัดอบรมแบบ Live Training ผ่านระบบ ZOOM เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าร่วมอบรมได้พร้อมกันเป็นจำนวนมาก

การอบรมดังกล่าว ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกรูปแบบงบการเงินตามรหัสรายการทางบัญชี และการจัดทำงบการเงิน/หมายเหตุประกอบงบ เพื่อนำส่งผ่านระบบ DBD e-Filing ให้ง่าย ถูกต้อง และรวดเร็ว พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการยื่นงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ฝึกปฏิบัติในการยื่นงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นผ่านระบบฯ ที่มีการอัพเดทล่าสุด ศึกษาข้อควรระวังเพื่อป้องกันไม่ให้งบการเงินที่นำส่งมีความบกพร่อง รวมทั้งการแก้ไขกรณีพบว่างบการเงินบกพร่อง ตลอดจนวิธีการตรวจสอบกรณีผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชีถูกแอบอ้างชื่อ และทราบถึงโทษฐานความผิดกรณีไม่นำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นอีกด้วย

อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหากธุรกิจทุกรายทั่วประเทศยื่นงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing ครบทั้ง 100% จะช่วยลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของธุรกิจ ลดปริมาณการใช้ทรัพยากรกระดาษ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและยังเป็นการส่งเสริมให้มีฐานข้อมูลทางการเงินของภาคธุรกิจ ข้อมูลผู้ถือหุ้นที่เป็นปัจจุบัน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ข้อมูลสำหรับประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อวิเคราะห์ขีดความสามารถของภาคธุรกิจไทย เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมได้อย่างทันสถานการณ์ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มี.ค. 68)

Tags: ,