สส.พรรคก้าวไกล (กก.) นำโดย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด เสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศ จำนวน 4 ชุด รวม 10 ฉบับ ได้แก่ ชุดกฎหมายปฏิรูประบบภาษี 3 ฉบับ ชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดิน 2 ฉบับ ชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงาน 4 ฉบับ และชุดกฎหมายคืนชีวิตชาวประมง 1 ฉบับ
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ และพร้อมทำงานเชิงรุก คือไม่เพียงแต่ตรวจสอบทักท้วงการทำงานของรัฐบาลที่คิดว่าไม่ตอบโจทย์ประเทศ แต่จะทำงานเชิงรุก ในการผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่ได้นำเสนอต่อประชาชนผ่านกลไกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวิธีหนึ่งที่สามารถผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงได้ คือการเสนอชุดกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
“จำนวน สส.ก้าวไกล 150 คน หากกฎหมายที่เราเสนอได้รับความเห็นชอบจาก สส. อีก 100 คนขึ้นไป จะทำให้กฎหมายนั้นผ่านสภาฯ นโยบายหลายอย่างที่เราสื่อสารกับพี่น้องประชาชนจะเป็นจริงได้ แม้พรรคก้าวไกลไม่ได้มีอำนาจฝ่ายบริหาร”
นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลได้ยื่นชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ได้ยื่นเพิ่มเติมอีก 4 ชุด คือ
1. ชุดปฏิรูประบบภาษี ให้รัฐหารายได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการเก็บภาษีที่ดินแบบรวมแปลง
2. ชุดปฏิรูปที่ดิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระการปฏิรูปที่ดิน ที่พรรคเสนอในช่วงการเลือกตั้ง หนึ่งในนั้นคือร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม โดยวันนี้เสนอร่างกฎหมายเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินฉบับอื่นๆ ที่จะเสนอในครั้งต่อไป
3. ชุดกฎหมายเกี่ยวกับการประมง ซึ่งพรรคก้าวไกลเสนอตั้งแต่สภาฯ ชุดที่แล้ว แต่ค้างการพิจารณาอยู่ และมีแนวโน้มว่า ครม.ชุดใหม่จะยืนยันร่างดังกล่าวไม่ทัน เราจึงยื่นร่างกฎหมายประมงเข้าสู่สภาฯ อีกครั้ง
4. ชุดคุ้มครองสิทธิแรงงาน
ด้าน นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด กล่าวถึงชุดกฎหมายประมงว่า ในสภาชุดที่แล้วได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาของชาวประมง จนถึงวันนี้ความเดือดร้อนยังไม่คลี่คลาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องยื่นกฎหมายเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ปัญหาของชาวประมงทั้ง 22 จังหวัดทั่วประเทศได้รับการดูแลแก้ไข โดยในแง่กระบวนการชาวประมง ได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในร่างกฎหมายฉบับนี้
นายเซีย กล่าวว่า พรรคก้าวไกล มีความตั้งใจผลักดันกฎหมายที่ได้นำเสนอไว้ต่อประชาชน แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล เพื่อให้ชาวแรงงานมีสิทธิในการรวมตัว การเจรจาต่อรอง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีค่าจ้างที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ มีชั่วโมงการทำงานน้อยลง และผู้สูงอายุจะมีหลักประกันรายได้อย่างเพียงพอ โดยกฎหมายเหล่านี้กลุ่มแรงงานได้มีส่วนร่วมในการเสนอตั้งแต่ต้น และขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อทำให้เรื่องเหล่านี้เป็นจริง
ด้านเครือข่ายผู้ใช้แรงงานกลุ่มต่างๆ ได้กล่าวสนับสนุนชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิแรงงานของพรรคก้าวไกล โดยตัวแทนจากสหภาพแรงงานอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ระบุว่า กฎหมายเดิม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ไม่สอดคล้องกับการจ้างงานในปัจจุบัน ร่างกฎหมายสหภาพแรงงานที่เสนอในวันนี้จึงมีความสำคัญ โดยมีการพูดถึงประชาธิปไตยในที่ทำงาน ทำให้คนทำงานมีสิทธิในการรวมตัวเป็นสหภาพ และมีอำนาจในการต่อรอง
ขณะที่ตัวแทนกลุ่มแรงงานนอกระบบ สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.บำนาญถ้วนหน้าของพรรรคก้าวไกล โดยชี้ว่า เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ไม่สามารถสร้างความมั่นคงในชีวิต ซึ่งบำนาญถ้วนหน้าของพรรคก้าวไกล จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
ส่วนตัวแทนแรงงานจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวสนับสนุนนโยบายลาคลอด 180 วัน ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูสุขภาพของผู้หญิง สอดคล้องกับหลักสากลขององค์การอนามัยโลก (WHO)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ส.ค. 66)
Tags: กฎหมาย, พรรคก้าวไกล, พริษฐ์ วัชรสินธุ, ศักดินัย นุ่มหนู, เซีย จำปาทอง