ผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ วอนนายกรัฐมนตรีและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เร่งปราบปราม “หมูเถื่อน” และกวาดล้างที่หมูผิดกฎหมายยังคงซุกซ่อนในห้องเย็นจำนวนมาก ทั้งคดี 161 ตู้ และ 2,385 ใบขนสินค้า น้ำหนักมากกว่า 100,000 ตัน หวั่นคดีล่าช้า หมูเถื่อนถูกระบายสู่ตลาดบิดเบือนกลไกตลาด กดราคาในประเทศให้ตกต่ำ อุตสาหกรรมไม่ฟื้นตัว
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เลี้ยงหมู โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยต้องแบกภาระขาดทุนมานานกว่า 10 เดือน แม้ราคาหน้าฟาร์มจะทยอยปรับขึ้นตามอุปสงค์-อุปทาน ก็ตาม แต่ราคาเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 70-76 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนผลิตเฉลี่ยยังสูงกว่า 80 บาท/กิโลกรัม หากหมูเถื่อนที่ยังซุกซ่อนอยู่ในห้องเย็น กระจายออกสู่ตลาด จะเป็นการเพิ่มซัพพลายให้สูงผิดปกติ ราคาจึงถูกกดให้ต่ำ ทำให้เกษตรกรยังคงเผชิญปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง และเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมสุกรที่เพิ่งฟื้นตัว
สำหรับ “หมูเถื่อน” มีการปราบปรามกันมานานกว่า 2 ปี ซึ่งคดีใหญ่ ประกอบด้วย คดีหมูเถื่อนตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้ น้ำหนัก 4,500 ตัน และคดีหมูเถื่อนสำแดงเท็จ เป็นโพลิเมอร์ และอาหารปลาแช่แข็ง เล็ดลอดจากท่าเรือแหลมฉบังอีก 2,385 ใบขนสินค้า น้ำหนักมากกว่า 60,000 ตัน (60 ล้านกิโลกรัม) ซึ่งกระจายไปทั่วประเทศ รอจังหวะขายปะปนกับหมูไทยบนเขียงหรือช่องทางออนไลน์
“หมูเถื่อนกว่า 60 ล้านกิโลกรัม เล็ดลอดออกมาขายในตลาด ทำให้ปริมาณหมูเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าความต้องการ กดราคาในประเทศให้ตกต่ำ ขณะที่เกษตรกรพยายามฟื้นฟูฟาร์ม และนำหมูเข้าเลี้ยงใหม่ หลังเจอปัญหาโรคระบาด ASF ตั้งแต่ปี 2565 แต่เมื่อผลผลิตพร้อมจับกลับต้องขายขาดทุน ที่สำคัญหมูเถื่อนยังอยู่ในประเทศอีกจำนวนมาก จึงอยากขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีเร่งรัดการทำงานซ้ำอีกครั้ง ให้ DSI นำคดีกลับเข้าสู่ขบวนการสอบสวน เพื่อขุดรากถอนโคนผู้กระทำผิดโดยเร็ว” นายสิทธิพันธ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินคดีหมูเถื่อน หยุดชะงักมานานกว่า 1 เดือน หลังจากที่ DSI เปลี่ยนไปทำคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่ 10,000 ตู้ ทั้งที่การสอบสวนคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ ก่อนหน้านี้มีความคืบหน้าไปมาก พบผู้กระทำผิด 18 บริษัท จับกุมแล้ว 10 บริษัท และมีการยึดทรัพย์จากการกระทำผิดแล้ว 92 ล้านบาท ส่วนการขยายผลหมูเถื่อน 2,385 ใบขนสินค้า อยู่ระหว่างรอเอกสารจากกรมศุลกากร และใบรับรองการส่งมอบสินค้าของบริษัทเดินเรือ (Bill of Lading : BL) เพื่อนำไปตรวจสอบปลายทางส่งมอบสินค้าและจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ขณะนี้คดีกลับไม่คืบหน้า
นายสิทธิพันธ์ กล่าว เรียกร้องให้ DSI เดินหน้าปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้นำเข้าหมูเถื่อนให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายโดยเร็ว เพื่อนำตัวคนผิดทุกรายไปรับโทษตามความผิด และตรวจค้นห้องเย็นทั่วประเทศต่อเนื่อง กวาดล้างหมูเถื่อนให้หมด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้หมูไทยเข้าสู่ตลาดได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งราคาจะปรับตามกลไกตลาด สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรเดินหน้าผลิตหมูคุณภาพสูง ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่มีสารเร่งเนื้อแดง เพื่อสุขภาพที่ดีและความมั่นคงทางอาหารของคนไทยในระยะยาว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 67)
Tags: DSI, กรมสอบสวนคดีพิเศษ, ผู้เลี้ยงสุกร, สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ, สุกร, หมูเถื่อน