นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ปัญหาหมูเถื่อนที่หนีการตรวจสอบยังคงเป็นปัญหากัดกินอาชีพเกษตรกรและสุขภาพคนไทย ขอให้ภาครัฐเร่งตรวจสต๊อกห้องเย็นใกล้ชิด รวมทั้งปริมาณการนำหมูเข้า-ออกโรงฆ่าชำแหละว่ามีอัตราส่วนที่สอดคล้องกันหรือไม่ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่ามีความพยายามผลักดันหมูเก่าเก็บในสต๊อกที่ยังไม่ถูกตรวจสอบ มากระจายวางจำหน่ายให้ผู้บริโภค ซึ่งขณะนี้ ราคาหมูทุกภูมิภาคอ่อนตัวลงอย่างน่าเป็นห่วงต่อความอยู่รอดของเกษตรกร สวนทางกับปริมาณหมูในประเทศที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ
โดยราคาหมูหน้าฟาร์มเกษตรกรปรับตัวลดลงมาตลอด ล่าสุดราคาอยู่ที่ 70-79 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตสูงถึงที่ 100.70 บาทต่อกิโลกรัม ผู้เลี้ยงต่างกังวลว่าหมูเถื่อนดังกล่าวจะมีเชื้อ ASF และโรคต่างถิ่นที่อาจกระทบกับการเลี้ยงหมูของไทย ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการเพิ่มซัพพลายหมูในประเทศ รวมทั้งหวั่นเกรงต่อสารเร่งเนื้อแดงที่อาจปนเปื้อนมากับเนื้อหมูต่างแดนที่อนุญาตให้ใช้สารดังกล่าวได้อย่างเสรี ที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพคนไทย
“ที่ผ่านมาผู้เลี้ยงต้องแบกรับปัญหาขาดทุนต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว และต้นทุนการเลี้ยงหมูก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้เลี้ยงต้องเร่งหาหนทางอยู่รอดด้วยตัวเอง ทั้งการเดินหน้าแก้ปัญหาชิ้นส่วนเนื้อหมูที่สันนิษฐานว่ามีการลักลอบนำเข้าอย่างไม่ถูกต้องต่อกรมศุลกากร โดยมีการขอตั้งคณะทำงานร่วมจากกลุ่มผู้เลี้ยง เพื่อเกาะติดหาเบาะแสของขบวนการลักลอบ เกษตรกรขอให้ภาครัฐ ทั้งกรมปศุสัตว์และกรมศุลกากร ร่วมกันดำเนินการตรวจจับหมูเถื่อนอย่างจริงจัง โดยเตรียมยกทัพเกษตรกรทั่วประเทศเข้าประท้วง เพื่อให้ภาครัฐเข้มงวดกวดขันการกวาดล้างก่อนที่หมูเก่าเก็บพวกนี้จะถูกเทออกขายให้ผู้บริโภค พร้อมหาตัวคนบงการมาลงโทษให้ถึงที่สุด ก่อนที่เกษตรกรต้องล้มหายตายจาก และผู้บริโภคต้องตายผ่อนส่งเพราะสารปนเปื้อนต่างๆ” นายสิทธิพันธ์ กล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวอีกว่า ผู้เลี้ยงต้องประสบกับภาวะวิกฤตกันมามาก ตั้งแต่ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2563 และยิ่งสูงขึ้นมากจากภาวะสงครามยูเครน-รัสเซีย ขณะเดียวกันต้องยกระดับการป้องกันโรคระบาดในฟาร์ม ทั้งช่วงการพักคอก การปรับปรุงโรงเรือน และใช้ยาฆ่าเชื้อสำหรับเตรียมการเลี้ยง รวมทั้งนำระบบไบโอซีเคียวริตี้มาใช้ หากปล่อยให้มีการปนเปื้อนต่างๆ ที่อาจติดมากับหมูเถื่อน ไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงที่หมูเถื่อนนี้จะเป็นพาหะในการนำโรคระบาดเข้ามา หากปนเปื้อนสารเร่งเนื้อแดงด้วยจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภคคนไทย
“ผู้บริโภคต้องระวังในการเลือกซื้อเนื้อหมู ควรซื้อจากร้านค้าที่มีตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” เป็นสัญลักษณ์สำหรับสถานที่จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ว่า เป็นผู้จำหน่ายเนื้อสัตว์ที่ถูกสุขลักษณะ และมีความปลอดภัยในอาหาร” นายสิทธิพันธ์ กล่าวทิ้งท้าย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 66)
Tags: ราคาหมู, สมาคมผู้เลี้ยงสุกร, สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ, หมูเถื่อน, เนื้อหมู