ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยในรายงานฉบับใหม่ในวันนี้ (13 มี.ค.) ว่า อิสราเอลได้กระทำการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ต่อชาวปาเลสไตน์ ด้วยการทำลายสถานพยาบาลสำหรับสตรีอย่างเป็นระบบระหว่างความขัดแย้งในพื้นที่กาซา และใช้ความรุนแรงทางเพศเป็นยุทธศาสตร์ในการทำสงคราม
“เจ้าหน้าที่อิสราเอลทำลายความสามารถในการเจริญพันธุ์ของชาวปาเลสไตน์ในกาซา รวมถึงการบังคับใช้มาตรการที่มุ่งขัดขวางการเกิด ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตามธรรมนูญกรุงโรมและอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและการลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ UN เกี่ยวกับดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งรวมถึงเยรูซาเลมตะวันออก และอิสราเอล กล่าว
คณะกรรมการฯ ระบุว่า การกระทำเหล่านั้น รวมถึงอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นของมารดา เนื่องจากการจำกัดการเข้าถึงเวชภัณฑ์ ถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในรูปแบบของการกวาดล้าง
ขณะเดียวกัน รายงานกล่าวหาว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ใช้การบังคับให้เปลื้องผ้าต่อสาธารณะและการล่วงละเมิดทางเพศเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐาน (SOP) เพื่อลงโทษชาวปาเลสไตน์ หลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อเดือนต.ค. 2566
อย่างไรก็ตาม คณะผู้แทนถาวรของอิสราเอลประจำ UN ณ นครเจนีวา อธิบายข้อกล่าวหาในรายงานว่าเป็นข้อกล่าวหาในที่ไร้มูลความจริง มีอคติ และขาดความน่าเชื่อถือ
คณะผู้แทนฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุในแถลงการณ์ตอบกลับว่า “IDF มีคำสั่งและนโยบายที่เป็นรูปธรรม ซึ่งห้ามการประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างชัดเจน” พร้อมเสริมว่ากระบวนการตรวจสอบของพวกเขาสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 68)
Tags: UN, กาซา, สหประชาชาติ, อิสราเอล