ศาสตราจารย์เจเรมี ซีเกล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจาก Wharton School ส่งสัญญาณเตือนถึงความสามารถในการรับมือภาวะเงินเฟ้อของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
“เรากำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่างที่รออยู่ข้างหน้า โดยทั่วไปนั้น ภาวะเงินเฟ้อมักเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่าเฟดคาดการณ์ไว้มาก” ศาสตราจารย์ซีเกลให้สัมภาษณ์ในรายการ “Trading Nation” ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี
ทั้งนี้ ซีเกลมองว่า ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกำลังเผชิญอยู่ก็คือ การที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มที่เฟดจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ซีเกลยังกล่าวว่า “เราต่างทราบดีว่า ภาวะความผันผวนในตลาดตราสารทุนโดยส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับสภาพคล่องที่เฟดเป็นผู้กำหนด หากมีการปรับลดวงเงิน QE เร็วขึ้น หมายความว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยย่อมเกิดขึ้นเร็วกว่านั้น”
ซีเกลยังได้เตือนถึงความเสี่ยงที่รุนแรงที่เชื่อมโยงกับราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยระบุว่า “เฟดจะเผชิญแรงกดดันที่ต้องเร่งกระบวนการปรับลดวงเงิน QE แต่ผมไม่เชื่อว่าตลาดจะพร้อมสำหรับการปรับลด QE”
ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์จาก Wharton ผู้นี้ยังแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลกระทบต่อหุ้นเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พร้อมกับระบุว่า ดัชนี Nasdaq ซึ่งดิ่งลงกว่า 5% เมื่อเร็วๆ นี้มีแนวโน้มที่จะร่วงลงอย่างรุนแรงอีก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ต.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ธนาคารกลางสหรัฐ, เงินเฟ้อ, เจเรมี ซีเกล, เฟด