บรรดาผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนกำลังอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
นายสตีเฟน โรช นักวิชาการอาวุโสของศูนย์พอล ไช่ ไชน่า (Paul Tsai China Center) จากมหาวิทยาลัยเยลกล่าวในรายการ “Squawk Box Asia” ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันนี้ (28 มี.ค.) ว่า จีนนิยามสหรัฐว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ และเชื่อว่าสหรัฐตั้งใจจะขัดขวางเส้นทางของจีน
“ไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกันหลงเหลืออีกแล้วในตอนนี้” นายโรชกล่าว
ขณะเดียวกัน นายวิลเลียม โคเฮน อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐในสมัยของอดีตนายบิล คลินตัน ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการและซีอีโอของบริษัทโคเฮน กรุ๊ป มีความคิดเห็นที่คล้ายคลึงกัน โดยระบุว่า การตอบโต้กันไปมาระหว่างทั้ง 2 ชาติเริ่มเข้าสู่ระดับอันตราย
นายโคเฮน กล่าวในรายการ “Squawk Box Asia” เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) ว่า “ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งเมื่อมีสองมหาอำนาจแข่งขันกัน และทั้งคู่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในมือ ซึ่งเป็นที่ที่อันตรายอย่างยิ่งที่อาวุธควรจะอยู่”
ในช่วงต้นเดือนมี.ค. ฉิน กัง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของจีนระบุว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐเริ่มได้ออกนอกเส้นทางการใช้เหตุและผลไปแล้ว พร้อมเตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นหากสหรัฐยังไม่ยอมหยุด
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนร้อนระอุขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่เรื่องการค้าและภาษี ไปจนถึงการแข่งขันทางเทคโนโลยีและการสอดแนมที่ถูกกล่าวหาเมื่อไม่นานมานี้ ขณะเดียวกัน ความตึงเครียดดังกล่าวได้ส่อเค้าบานปลายอีกครั้งหลังสหรัฐยิงบอลลูนซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีนตก เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐต้องพับแผนเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว
นายสตีเฟน โรชกล่าวว่า “เหตุการณ์บอลลูนเป็นชนวนที่ทำให้ความสัมพันธ์ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว” และเสริมว่า “หากบอลลูนเพียงลูกเดียวสามารถบั่นทอนความสัมพันธ์ลงได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ มันก็เป็นเครื่องบ่งชี้ชั้นดีถึงระดับความเสียหายและความไม่ไว้วางใจที่ทั้งสองชาติมีให้แก่กันในความสัมพันธ์นี้”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มี.ค. 66)
Tags: ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, จีน, สหรัฐ