นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตัดสินใจที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เมื่อคืนที่ผ่านมา
นายคุโรดะเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ โดยระบุว่า BOJ เผชิญกับผลกระทบจากโควิด-19 ที่แตกต่างออกไปจากบรรดาธนาคารกลางของชาติตะวันตก
นายคุโรดะกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมวันนี้ว่า “เราจะผ่อนคลายทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายราคาเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นอกเหนือไปจากนี้ เรายังจะดำเนินโครงการพิเศษเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสด้วย”
ทั้งนี้ นายคุโรดะได้ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ “ลดลงอย่างรวดเร็ว” ในญี่ปุ่น แต่ถึงเช่นนั้น BOJ ก็จะยังเดินหน้าสนับสนุนด้านการจัดหาเงินทุนสำหรับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า
อนึ่ง คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดประกาศเมื่อคืนนี้ว่า จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. โดยเฟดจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และปรับลดวงเงินซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) เดือนละ 5 พันล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 พ.ย. 64)
Tags: BOJ, QE, ธนาคารกลางญี่ปุ่น, ธนาคารกลางสหรัฐ, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ, ฮารุฮิโกะ คุโรดะ, เฟด