นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ทางการจีนสามารถจำกัดวงความเสี่ยงจากบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ที่มีต่อเศรษฐกิจและระบบการเงินจีนได้
นายอี้กล่าวผ่านการประชุมออนไลน์ของกลุ่ม G30 เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ว่า ปัญหาของเอเวอร์แกรนด์ “ทำให้เกิดข้อกังวลเพียงเล็กน้อย” และ “โดยรวมแล้วเราคุมความเสี่ยงจากเอเวอร์แกรนด์ได้”
ทั้งนี้ ปัญหาขาดแคลนเงินสดของเอเวอร์แกรนด์สร้างความกังวลว่าจะลุกลามไปถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่น ๆ ด้วย เมื่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง คงมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯ ความกลัวว่าปัญหาจะลุกลามเริ่มมีมากขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากบริษัทแฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ผิดนัดชำระหนี้ไปแบบผิดคาด อีกทั้งบริษัท ซีนิค โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ก็เตือนว่าซีนิคกำลังจะผิดนัดชำระหนี้ด้วย
นายอี้กล่าวว่าหนี้สินของเอเวอร์แกรนด์มีการกระจายไปทั่วองค์กรต่าง ๆ ในหลัก “หลายร้อยแห่ง” ในระบบการเงิน ดังนั้นความเสี่ยงจึง “ไม่ได้กระจุกตัวมากนัก”
“สิทธิ์และผลประโยชน์ของเจ้าหนี้กับผู้ถือหุ้นจะได้รับการพิจารณาอย่างเต็มที่ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด นอกจากนี้กฎหมายก็ได้บ่งชี้ถึงสิทธิ์ในการเรียกร้องหนี้สินเหล่านั้นไว้ชัดเจน” นายอี้กล่าว พร้อมย้ำว่าจีนพยายามปกป้องผู้บริโภคและผู้ซื้อบ้านด้วย
นายอี้กล่าวว่า ด้วยการจำกัดวงความเสี่ยง “ผมคิดว่าเราสามารถป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบได้”
นอกจากนี้ นายอี้ยังกล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนนั้น “ควบคุมได้แล้ว” และว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับไปเป็นปกติเช่นเคย แม้ในระยะหลังการเติบโตจะชะลอตัวก็ตาม ทั้งนี้ นายอี้คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวราว 8% สำหรับทั้งปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 64)
Tags: PBOC, จีน, ธนาคารกลางจีน, เอเวอร์แกรนด์, ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป