รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมหารือการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ร่วมกับโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 21 แห่ง ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เร้นท์
โดยทางโรงพยาบาลเอกชนได้นำเสนอปัญหา และแนวทางการรับผู้ป่วย การรักษา และการลดการติดเชื้อ ซึ่งต่างยอมรับว่า ต้องเพิ่มเตียงสีเหลือง สีแดง และห้องความดันลบ และยังมีข้อกังวลว่า จะต้องขยายเตียงมากเท่าใดจึงจะรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอได้ หากการควบคุมการระบาดยังไม่เป็นผล โดยเฉพาะวัคซีนที่เป็นหัวใจสำคัญ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลเร่งรัดสนับสนุนการนำเข้าและจัดหาวัคซีนทั้งของรัฐและเอกชน โดยวัคซีนหลักของรัฐบาลคือ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และกำลังดำเนินการด้านเอกสารของสปุตนิก วี
ส่วนวัคซีนทางเลือกที่เอกชนซื้อผ่านราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ อย่างซิโนฟาร์มก็เข้ามาแล้ว ขณะที่โมเดอร์นาจะเข้ามาในไตรมาสที่ 4 ซึ่งขึ้นกับบริษัทต้นทางด้วย แต่รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ให้มีการนำเข้าและแจกจ่ายวัคซีนให้ทั่วถึงตามสัดส่วนประชากรและการแพร่ระบาด รวมทั้งชุดตรวจ Antigent test kit ที่จะมีการแจกจ่ายให้มีการตรวจอย่างทั่วถึง แต่เมื่อตรวจแล้วจะดำเนินการอย่างไรนั้นต้องกำหนดให้ชัดเจน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ทุกภาคส่วนต้องทำงานทั้งเชิงรุก เช่น การขยายเตียง และเชิงรับ เช่น การตรวจสอบคัดกรอง ต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน เพราะชีวิตประชาชนคนไทยตัองได้รับการดูแล ส่วนข้อกฏหมายที่ติดขัดจะแก้ไขเพื่อให้แพทย์สามารถบริหารจัดการทำงานได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, ขยายเตียง, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, โควิด-19, โรงพยาบาลเอกชน