ผู้นำ G7 วอนประเทศทั่วโลกไม่ให้ใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจเพื่อเป้าหมายการเมือง

ผู้นำ G7 เรียกร้องในวันนี้ (20 พ.ค.) ให้ทุกประเทศทั่วโลกละเว้นจากการใช้ “การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ” เป็นเครื่องมือในการบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมือง โดยประเทศประชาธิปไตยบางแห่งได้รับผลกระทบในทางลบจากการใช้กลยุทธ์ดังกล่าวโดยประเทศเผด็จการ

“เราจะทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่า ความพยายามที่จะใช้การพึ่งพาทางเศรษฐกิจเป็นอาวุธในการบังคับให้สมาชิก G7 และหุ้นส่วนของเราซึ่งรวมถึงประเทศเศรษฐกิจขนาดเล็กให้ปฏิบัติตามนั้น จะประสบกับความล้มเหลวและเผชิญกับผลที่ตามมา” ถ้อยแถลงของ G7 ระบุโดยมุ่งเป้าไปที่จีนเป็นหลัก

แถลงการณ์ดังกล่าวที่ออกมาหลังจากวันที่สองของการประชุมสุดยอด G7 ที่เมืองฮิโรชิมานั้น ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานสำหรับวัสดุอุตสาหกรรมที่สำคัญ ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อตอบโต้ข้อจำกัดทางการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า บรรดาผู้นำ G7 ยังได้ยืนยันว่าจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านพลังงานและการพัฒนาแก่ประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนา ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นว่า จีนกำลังมีส่วนร่วมใน “การทูตแบบกับดักหนี้” (debt-trap diplomacy) โดยใช้เงินกู้เป็นเครื่องมือในการสร้างอิทธิพลเหนือประเทศที่กู้ยืมเงิน

กลุ่มประเทศ G7 พยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นกับประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่รัสเซียและจีนพยายามที่จะเพิ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการทหารในการพัฒนาที่ถูกมองว่าเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงทั่วโลก

ทั้งนี้ กลุ่ม G7 ประกอบด้วย อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐ รวมถึงสหภาพยุโรป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 66)

Tags: ,