ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนได้ออกโรงเตือนในวันจันทร์ (11 เม.ย.) ว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีในยูเครน โดยเรียกร้องให้บรรดาชาติตะวันตกออกมาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรงต่อรัสเซียเพื่อสกัดการใช้อาวุธเคมี
“เรากังวลมากที่สุดเกี่ยวกับประเด็นการใช้อาวุธเคมี” ปธน.เซเลนสกีกล่าว แต่ไม่ได้ระบุมีการใช้อาวุธเคมีแล้วแต่อย่างใด
“ผมอยากเตือนเหล่าผู้นำโลกว่า กองทัพรัสเซียได้เริ่มหารือเรื่องการใช้อาวุธเคมีกันแล้ว ซึ่งหมายความว่ามีความจำเป็นที่จะต้องตอบสนองต่อพฤติการณ์รุกรานของรัสเซียให้รุนแรงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การรุกรานของรัสเซีย ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปหลายพันคนและทำให้ประชาชนอีกหลายล้านคนต้องอพยพลี้ภัย ได้เปลี่ยนจากด่านหน้าต่าง ๆ ของกรุงเคียฟไปยังภาคตะวันออกของยูเครน โดยคาดการณ์กันว่า มีการโจมตีอย่างรุนแรงในชัยภูมิใหม่ดังกล่าว
“ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรงชนิดที่ว่ารัสเซียจะไม่กล้าเอ่ยถึงการใช้อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างสูง โดยจำเป็นต้องสั่งห้ามการค้าขายน้ำมันกับรัสเซีย การออกมาตรการคว่ำบาตรที่ไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำมัน รังแต่จะทำให้รัสเซียไม่สะทกสะท้าน”
ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกเพนตากอนได้ออกมาเปิดเผยว่าสหรัฐได้รับรายงานความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะใช้อาวุธเคมีแล้ว
“เรายังไม่สามารถยืนยันได้ในขณะนี้ และเราจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป โดยหากรายงานเหล่านี้เป็นความจริงก็ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างยิ่ง และสะท้อนความกังวลที่เรามีเกี่ยวกับศักยภาพของรัสเซียในการใช้สารควบคุมจลาจลรวมถึง แก๊สน้ำตาผสมกับสารเคมีในยูเครน” นายเคอร์บีกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียยังคงสนับสนุนการเจรจาสันติภาพกับยูเครนต่อไป แม้ว่ายูเครนมีจุดยืนที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีแนวโน้มที่จะปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซีย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 เม.ย. 65)
Tags: ยูเครน, รัสเซีย, อาวุธเคมี, โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี