รอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) บ่งชี้ว่า ผลผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากไนจีเรียและอิรักช่วยชดเชยผลกระทบจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอย่างต่อเนื่องโดยสมัครใจของสมาชิกโอเปกบางประเทศตามที่ตกลงกับกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+)
ผลสำรวจระบุว่า โอเปกเพิ่มกำลังการผลิต 26.63 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 145,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ผลการสำรวจดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลการขนส่งและข้อมูลจากแหล่งอุตสาหกรรม
การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แม้อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโอเปกพร้อมด้วยคาซัคสถานซึ่งเป็นสมาชิก OPEC+ ให้คำมั่นที่จะชดเชยการผลิตที่มากเกินไปก่อนหน้านี้ด้วยการปรับลดการผลิตน้ำมันลงในช่วงที่เหลือของปีนี้
สมาชิก OPEC+ หลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสมาชิกกลุ่มโอเปก, รัสเซีย และพันธมิตรอื่น ๆ ได้ลดกำลังการผลิตครั้งใหม่ในเดือนม.ค. เพื่อรับมือกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ และอุปทานที่เพิ่มขึ้นนอกกลุ่มโอเปก โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 มิ.ย.) บรรดาผู้ผลิตน้ำมันได้ตัดสินใจที่จะคงการปรับลดการผลิตน้ำมันในไตรมาส 3/2567 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการขยายเวลาจนถึงเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ผลการสำรวจพบว่า อิรักและไนจีเรียต่างก็เพิ่มการผลิตน้ำมัน 50,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วนซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีเพียงแอลจีเรียเท่านั้นที่ลดกำลังการผลิต เนื่องจากต้องบำรุงรักษาบ่อน้ำมัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 มิ.ย. 67)
Tags: OPEC+, กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน, กลุ่มโอเปกพลัส, น้ำมัน, อิรัก, โอเปก, ไนจีเรีย